กรดอะมิโน (Amino Acid) คือองค์ประกอบสำคัญของโปรตีนที่พบได้ในสิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลก โดยสามารถแบ่งเป็นกรดอะมิโนมาตรฐานที่พบได้โดยทั่วไป 20 ชนิด และสามารถแบ่งเป็น 2 ชนิดใหญ่ๆ ได้ 2 ชนิด คือ กรดอะมิโนจำเป็น และกรดอะมิโนไม่จำเป็น ซึ่งมีคุณสมบัติแตกต่างกัน ดังนี้
1. กรดอะมิโนจำเป็น
กรดอะมิโนจำเป็น คือกรดอะมิโนที่ร่างกายของสิ่งมีชีวิตนั้นๆ ไม่สามารถสังเคราะห์ขึ้นได้ด้วยตัวเอง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องได้รับการจากอาหาร โดยมีทั้งหมด 9 ชนิด มีบทบาทสำคัญในกระบวนการต่าง ๆ ของร่างกาย
ฮีสติดีน (Histidine)
มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของเซลล์ การซ่อมแซมเนื้อเยื่อ และการผลิตสารฮีโมโกลบินในเลือด ยังมีส่วนในการสร้างสารที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาท เช่น ฮีสตามีน
พบได้ใน: เนื้อสัตว์ (เช่น เนื้อวัว เนื้อไก่) ปลา (เช่น ทูน่า แซลมอน) ผลิตภัณฑ์จากนม (โยเกิร์ต นม) ถั่วเลนทิล
ไอโซลูซีน (Isoleucine)
ไอโซลูซีนช่วยในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ การเผาผลาญพลังงาน และควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เป็นกรดอะมิโนชนิดหนึ่งในกลุ่ม Branched-Chain Amino Acids (BCAAs) ที่สำคัญสำหรับนักกีฬาหรือผู้ที่ออกกำลังกาย
พบได้ใน: เนื้อไก่ ไข่ ถั่วเหลือง เมล็ดธัญพืช เช่น ควินัว อัลมอนด์ ถั่วลิสง
ลิวซีน (Leucine)
มีบทบาทสำคัญในกระบวนการสังเคราะห์โปรตีน การรักษาระดับพลังงานในกล้ามเนื้อ และการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อ จึงเป็นอีกหนึ่งกรดอะมิโนในกลุ่ม BCAAs
พบได้ใน: เนื้อสัตว์ทุกชนิด ปลา ผลิตภัณฑ์จากนม (เช่น ชีส) ถั่วเหลือง ถั่วลิสง เมล็ดฟักทอง
ไลซีน (Lysine)
มีหน้าที่สำคัญในการผลิตฮอร์โมนและเอนไซม์ ช่วยในการดูดซึมแคลเซียม และการสร้างคอลลาเจนซึ่งจำเป็นต่อสุขภาพผิวหนัง กระดูก และเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน
พบได้ใน: เนื้อวัว เนื้อหมู ปลา (เช่น แซลมอน ทูน่า) ถั่วเลนทิล ถั่วเหลือง ไข่ ชีส
เมไทโอนีน (Methionine)
เป็นแหล่งของกำมะถันที่จำเป็นต่อการสังเคราะห์สารประกอบต่าง ๆ ในร่างกาย ช่วยในการล้างสารพิษจากตับ และการสร้างพลังงาน นอกจากนี้ยังช่วยในการเจริญเติบโตของเส้นผมและเล็บ
พบได้ใน: เนื้อสัตว์ทุกชนิด ปลา ไข่ นม เมล็ดธัญพืช เช่น งาดำ และถั่วบราซิล
ฟีนิลอะลานีน (Phenylalanine)
มีบทบาทในการผลิตสารเคมีที่สำคัญในระบบประสาท เช่น โดพามีน และอะดรีนาลีน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการควบคุมอารมณ์ และการทำงานของสมอง
พบได้ใน: เนื้อวัว เนื้อไก่ ปลา (เช่น แซลมอน) ถั่วลิสง นม ชีส โยเกิร์ต
ทรีโอนีน (Threonine)
ช่วยในกระบวนการเผาผลาญไขมันในตับ และเป็นส่วนประกอบของโปรตีนสำคัญ เช่น คอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งจำเป็นต่อการสร้างผิวหนังและเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน
พบได้ใน: เนื้อไก่ ปลา ไข่ นม ชีส และผักบางชนิด เช่น ผักโขม และผักใบเขียวอื่น ๆ
ทริปโตเฟน (Tryptophan)
ช่วยในการผลิตเซโรโทนิน สารเคมีในสมองที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมอารมณ์ การนอนหลับ และความอยากอาหาร ยังมีส่วนช่วยในการสร้างเมลาโทนินที่ควบคุมวงจรการนอนหลับ
พบได้ใน: ไก่งวง เนื้อไก่ ปลา ถั่วลิสง ชีส นม โยเกิร์ต และเมล็ดฟักทอง
วาลีน (Valine)
เป็นหนึ่งในกรดอะมิโนกลุ่ม BCAAs ช่วยในการสร้างและฟื้นฟูกล้ามเนื้อ การรักษาสมดุลไนโตรเจน และเสริมสร้างพลังงานที่จำเป็นต่อการทำกิจกรรมต่าง ๆ
พบได้ใน: เนื้อไก่ เนื้อหมู ปลา ถั่วเหลือง ควินัว ถั่วลิสง และเมล็ดพืชต่าง ๆ
กรดอะมิโนจำเป็นมีบทบาทสำคัญในกระบวนการต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ช่วยในการสร้างและซ่อมแซมกล้ามเนื้อ สร้างโปรตีน และรักษาสมดุลของสารเคมีในระบบประสาท แหล่งอาหารที่มีกรดอะมิโนจำเป็นสูงมักมาจากโปรตีนคุณภาพสูง เช่น เนื้อสัตว์ ปลา ไข่ ผลิตภัณฑ์จากนม และถั่ว
สำหรับผู้ที่ไม่สามารถได้รับกรดอะมิโนเพียงพอจากอาหาร อาหารเสริมกรดอะมิโน หรือ BCAA (Branched-Chain Amino Acids) เช่น ไอโซลิวซีน ลิวซีน และวาลีน สามารถช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อหลังออกกำลังกายและเพิ่มพลังงานได้
2. กรดอะมิโนไม่จำเป็น
กรดอะมิโนไม่จำเป็น คือกรดอะมิโนที่ร่างกายของสิ่งมีชีวิตนั้นๆ สามารถสังเคราะห์ได้ด้วยตัวเอง โดยไม่จำเป็นต้องได้รับจากอาหาร โดยมีทั้งหมด 11 ชนิด ประกอบไปด้วย
อะลานีน (Alanine)
มีหน้าที่สำคัญในกระบวนการเผาผลาญกลูโคส ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานหลักของร่างกาย ช่วยกำจัดสารพิษออกจากตับ และยังเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างโปรตีนในกล้ามเนื้อ
สังเคราะห์จากน้ำตาลกลูโคสในกล้ามเนื้อ และตับทำหน้าที่ปรับแต่งให้กลายเป็นอะลานีน
อาร์จินีน (Arginine)
มีบทบาทในการสังเคราะห์ไนตริกออกไซด์ ซึ่งช่วยขยายหลอดเลือด และส่งเสริมการไหลเวียนของเลือด นอกจากนี้ยังช่วยในการกำจัดแอมโมเนียออกจากร่างกาย
สร้างในตับระหว่างกระบวนการขับแอมโมเนียออกจากร่างกาย ผ่านระบบการทำงานของไต
แอสพาราจีน (Asparagine)
เป็นส่วนหนึ่งของการสังเคราะห์โปรตีน และช่วยในการส่งสัญญาณระหว่างเซลล์ประสาท นอกจากนี้ยังมีบทบาทในการควบคุมสมดุลของสารน้ำในเซลล์
สร้างจากกรดแอสพาร์ติกที่มาจากตับ และมีการถ่ายโอนกลุ่มอะมิโนจากกระบวนการในกล้ามเนื้อและเซลล์ทั่วร่างกาย
แอสพาร์ติก แอซิด (Aspartic Acid)
ช่วยในการสร้างและเผาผลาญพลังงานในเซลล์ และมีบทบาทในกระบวนการสังเคราะห์ DNA และ RNA ยังช่วยในการขับเคลื่อนพลังงานให้กับกล้ามเนื้อและสมอง
สร้างจากสารที่มาจากตับในกระบวนการผลิตพลังงาน โดยมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในไตและกล้ามเนื้อ
ซิสเตอีน (Cysteine)
เป็นกรดอะมิโนที่มีส่วนประกอบของกำมะถัน ช่วยในกระบวนการล้างพิษของตับ และเป็นส่วนสำคัญในการสร้างกลูตาไธโอน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย
สร้างในตับจากกรดอะมิโนเมไทโอนีนที่ได้จากอาหาร และถูกเปลี่ยนแปลงเพื่อสร้างซิสเตอีนที่ช่วยเสริมสร้างเส้นผมและเล็บ
กลูตามิก แอซิด (Glutamic Acid)
เป็นกรดอะมิโนที่มีบทบาทในระบบประสาท โดยช่วยในการส่งสัญญาณระหว่างเซลล์สมอง และเป็นสารตั้งต้นในการสร้างกลูตาเมต ซึ่งเป็นสารสื่อประสาท
สร้างจากสารที่มาจากตับ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการผลิตพลังงานในร่างกาย และถูกปรับแต่งโดยกล้ามเนื้อและระบบประสาท
กลูตามีน (Glutamine)
ช่วยในการขนส่งแอมโมเนียในร่างกาย และมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ การรักษาระบบภูมิคุ้มกัน และการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ
สร้างจากกลูตามิก แอซิดในตับ และมีบทบาทสำคัญในการขนส่งแอมโมเนียออกจากร่างกาย ซึ่งเกี่ยวข้องกับการทำงานของไตและกล้ามเนื้อ
ไกลซีน (Glycine)
เป็นกรดอะมิโนที่ช่วยในการสร้างโปรตีน เช่น คอลลาเจน และช่วยในการควบคุมการทำงานของระบบประสาท โดยช่วยลดการทำงานของสารสื่อประสาทที่กระตุ้น
สร้างจากสารที่มาจากกระบวนการในตับ และเปลี่ยนแปลงในเซลล์กล้ามเนื้อ โดยมีส่วนช่วยในกระบวนการสร้างโปรตีน
โพรลีน (Proline)
มีบทบาทสำคัญในการสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีนที่สำคัญในผิวหนัง เส้นเอ็น และกระดูก ยังมีบทบาทในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่ได้รับบาดเจ็บ
สร้างจากกลูตามิก แอซิดในตับ และช่วยในการสร้างคอลลาเจนที่จำเป็นต่อการซ่อมแซมผิวหนังและเนื้อเยื่อต่าง ๆ
เซรีน (Serine)
เป็นกรดอะมิโนที่ช่วยในการเผาผลาญไขมัน และโปรตีนในร่างกาย นอกจากนี้ยังมีบทบาทในการทำงานของสมองและระบบประสาท
สร้างจากสารที่เกิดจากกระบวนการเผาผลาญพลังงานในตับ และมีบทบาทในกระบวนการสร้างโปรตีนในร่างกาย
ไทโรซีน (Tyrosine)
ช่วยในการสร้างฮอร์โมน เช่น โดพามีน และอะดรีนาลีน ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่สำคัญในการควบคุมอารมณ์ และการทำงานของระบบประสาท
สร้างจากฟีนิลอะลานีนในตับ โดยไทโรซีนมีบทบาทสำคัญในการผลิตฮอร์โมนในต่อมหมวกไตและสมอง
กรดอะมิโนส่วนใหญ่แล้วจะมารูปแบบของโปรตีน โดยเมื่อกินเข้าไป ร่างกายก็ย่อยโปรตีนเหล่านั้นให้อยู่ในรูปแบบของกรดอะมิโนจากนั้นจะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในส่วนต่างๆ หากร่างกายได้รับกรดอะมิโนมากเกินปริมาณที่จำเป็นก็จะถูกขับออกมาทางเหงื่อหรือปัสสาวะจนหมด
ประเภทของกรดอะมิโน
กรดอะมิโนที่พบได้โดยทั่วไปนั้น สามารถแบ่ง เป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ ตามความสามารถของร่างกายในการสังเคราะห์ ได้แก่
- กรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย (Essential Amino Acids) คือกรดอะมิโนที่ร่างกายต้องการ แต่ไม่สามารถสังเคราะห์เองได้ จึงจำเป็นต้องกินเสริมเข้าไปจากมื้ออาหารที่มีกรดอะมิโนชนิดนี้
- กรดอะมิโนจำเป็นชนิดที่มีเงื่อนไข (Conditionally Essential Amino Acids) คือกรดอะมิโนชนิดที่ร่างกายสามารถสังเคราะห์ขึ้นมาได้ แต่ในบางโอกาสอาจจะสังเคราะห์ขึ้นมาไม่เพียงพอต่อปริมาณที่ร่างกายต้องการ เช่น ช่วงที่ร่างกายเกิดอาการบาดเจ็บ หรือระหว่างทำคีโมบำบัด จึงจำเป็นต้องกินเสริมเข้าไป
- กรดอะมิโนที่ร่างกายสังเคราะห์ได้เอง (Non Essential Amino Acids) คือกรดอะมิโนที่ร่างกายสังเคราะห์ได้เอง ไม่จำเป็นต้องกินเสริม
เพื่อให้ร่างกายได้รับกรดอะมิโนในปริมาณที่พอเพียง จึงจำเป็นที่จะต้องกินอาหารที่มีปริมาณกรดอะมิโนประเภทต่างๆ อย่างเพียงพอ โดยในเนื้อสัตว์ประเภทวัว ไก่ หมู และไข่ไก่นั้น เพราะเป็นอาหารจำพวกที่มีปริมาณกรดอะมิโนเป็นส่วนประกอบมากที่สุด ซึ่งเมื่อกินอาหารเหล่านี้เข้าไป โปรตีนที่ได้จากเนื้อสัตว์ประเภทต่างๆ ก็จะถูกย่อยเป็นกรดอะมิโน จากนั้นจะถูกนำไปใช้ฟื้นฟูร่างกายในส่วนต่างๆ ทั้งในส่วนของกล้ามเนื้อ เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และช่วยให้การทำงานของสมองมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
กรดอะมิโนจำเป็น (สำหรับในเด็ก)
กรดอะมิโนจำเป็นสำหรับเด็กมีทั้งหมด 9 ชนิดเช่นเดียวกับผู้ใหญ่ แต่ในช่วงการเจริญเติบโตของเด็ก ความต้องการกรดอะมิโนเหล่านี้จะสูงขึ้นเพื่อสนับสนุนการพัฒนาของร่างกายและสมอง กรดอะมิโนเหล่านี้สามารถได้รับจากอาหารที่มีโปรตีนสูงและมีคุณค่าทางโภชนาการ เช่น:
- เนื้อสัตว์: เช่น เนื้อไก่ เนื้อวัว เนื้อหมู ซึ่งเป็นแหล่งโปรตีนสมบูรณ์ที่มีกรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วน
- ปลา: เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาซาร์ดีน ที่อุดมไปด้วยกรดอะมิโนจำเป็น และไขมันดี
- ไข่: เป็นแหล่งโปรตีนที่มีคุณภาพสูง ให้กรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วน
- ผลิตภัณฑ์จากนม: เช่น นม โยเกิร์ต ชีส ซึ่งเป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพสูงและมีกรดอะมิโนจำเป็น
- ถั่วและเมล็ดธัญพืช: เช่น ถั่วเหลือง ถั่วเลนทิล เมล็ดฟักทอง อัลมอนด์ ซึ่งเป็นแหล่งโปรตีนจากพืชที่มีกรดอะมิโนจำเป็น
- ควินัว: เป็นธัญพืชที่มีโปรตีนสูงและกรดอะมิโนครบถ้วน
ถ้าร่างกายได้รับกรดอะมิโนไม่เพียงพอ จะส่งผลให้ร่างกายไม่สามารถสร้างโปรตีนที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอได้ อาจทำให้รู้สึกอ่อนเพลีย ไม่มีแรง กล้ามเนื้อไม่แข็งแรง และการฟื้นตัวจากบาดแผลหรืออาการเจ็บป่วยก็ช้าลง นอกจากนี้ ยังอาจทำให้ร่างกายขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อระบบภูมิคุ้มกันและการทำงานของสมอง