21 พฤศจิกายน 2567

แคลอรี่ใน ข้าวโพดคลุกเนย มีกี่ Kcal

ข้าวโพดคลุกเนย

ข้าวโพดคลุกเนย คืออาหารว่างที่ได้รับความนิยมมากในประเทศไทยและอีกหลายประเทศทั่วโลก วัตถุดิบหลัก คือข้าวโพดหวานที่ได้รับการต้มจนสุก จากนั้นเคลือบด้วยเนยละลายที่เพิ่มรสชาติหวานขึ้น อีกทั้งเนยยังช่วยให้เนื้อข้าวโพดมีความมันและนุ่มลิ้นมากยิ่งขึ้น บางครั้งอาจผสมเกลือเล็กน้อยเพื่อเพิ่มรสชาติหรือเพิ่มธัญพืชหรือชีสเพื่อลิ้มรสที่หลากหลายมากขึ้น ข้าวโพดคลุกเนยมักจะเป็นตัวเลือกหนึ่งในเมนูของชาวกินเล่นในงานเทศกาลและตลาดอาหาร โดยการทำข้าวโพดคลุกเนยสามารถทำได้ง่ายและสะดวก ทำให้ผู้ที่รักการทำอาหารเองมักเลือกทำทานได้ที่บ้านอย่างสะดวกสบาย

โดยเฉลี่ยปริมาณ ข้าวโพดคลุกเนย 1 ถ้วย (150 กรัม) ให้พลังงาน

= 200 KCAL

(หรือคิดเป็น 133 Kcal ต่อปริมาณ 100 กรัม)
ใน 1 ถ้วยประกอบด้วยไขมัน 12 g.
⋅ พลังงานจากไขมัน = 108 กิโลแคลอรี่
⋅ เฉพาะไขมันคิดเป็น 17% ที่ร่างกายต้องการต่อวัน
ข้าวโพดคลุกเนย

สัดส่วนสารอาหารหลัก

(สัดส่วนของสารอาหารที่ให้พลังงานกับร่างกาย)

แหล่งที่มาของแคลอรี่

(แบ่งสัดส่วนของ Kcal ที่ได้รับจากวัตถุดิบในอาหาร)
เนย 42%
ข้าวโพด 37%
น้ำตาล 15%
เกลือ 6%
การที่ข้าวโพดคลุกเนยมีแคลอรี่มาจากเนยมากที่สุดนั้นมาจากการที่เนยมีไขมันสูงทำให้มีพลังงานที่ค่อนข้างสูง ข้าวโพดเป็นที่สองเนื่องจากเป็นวัตถุดิบหลักและมีคาร์โบไฮเดรตในปริมาณมาก น้ำตาลที่เพิ่มเข้าไปเพื่อให้รสหวานเพิ่มก็นำแคลอรี่มาส่วนหนึ่ง ในขณะที่เกลือนำความเค็มและเพิ่มเล็กน้อยในด้านพลังงานรวม

ปริมาณโซเดียมใน ข้าวโพดคลุกเนย

เฉลี่ยใน 1 ถ้วย
120 - 160
(มิลลิกรัม)
จัดอยู่ในกลุ่มอาหารที่โซเดียม ปานกลาง
ข้าวโพดคลุกเนย 1 ถ้วย (150 กรัม)
มีโซเดียมประมาณ 120-160 มิลลิกรัม
คิดเป็น 5-7% ของปริมาณโซเดียมที่แนะนำต่อวัน
"ปริมาณโซเดียมในข้าวโพดคลุกเนยมาจากการใช้เกลือในการเพิ่มรสชาติ แม้ว่าไม่มากนักแต่สามารถเพิ่มระดับโซเดียมในอาหารได้ แต่ส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในเกณฑ์ที่ควบคุมได้"
องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำให้บริโภคโซเดียมไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัม ต่อวัน

วิตามิน/เกลือแร่ที่พบได้ใน ข้าวโพดคลุกเนย

ในข้าวโพดคลุกเนย 1 ถ้วย มีสารอาหารประเภทวิตามินและเกลือแร่ที่พบบ่อยดังนี้
วิตามิน/เกลือแร่ ปริมาณใน 1 จาน %RDI ต่อวัน ได้รับจาก
วิตามินเอ 2.1 ไมโครกรัม 30% ข้าวโพด
โพแทสเซียม 200 มิลลิกรัม 5% ข้าวโพด
โฟเลต 44.8 ไมโครกรัม 11% ข้าวโพด
แมกนีเซียม 13.6 มิลลิกรัม 3% ข้าวโพด
วิตามินบี6 0.2 มิลลิกรัม 12% ข้าวโพด
% RDI ต่อวัน หมายถึง สัดส่วนของสารอาหาร ที่ได้รับจากอาหาร เทียบกับปริมาณที่ร่างกายต้องการในหนึ่งวัน

กินข้าวโพดคลุกเนย 1 ถ้วย ให้พลังงาน 200 แคลอรี่ ต้องเบิร์นแค่ไหน?

เดินเร็ว

ใช้เวลา 0.7 ชั่วโมง

วิ่งจ๊อกกิ้ง

ใช้เวลา 0.3 ชั่วโมง

ว่ายน้ำ

ใช้เวลา 0.4 ชั่วโมง

ปั่นจักรยาน

ใช้เวลา 0.4 ชั่วโมง

ควรเลือกกิจกรรมที่เหมาะสม และเพิ่มความต่อเนื่องในชีวิตประจำวัน เพื่อให้การเผาผลาญมีประสิทธิภาพมากขึ้น

กินข้าวโพดคลุกเนยให้ได้พลังงานน้อยที่สุด

สำหรับผู้ที่ต้องการกินเพื่อสุขภาพ ลดน้ำหนัก หรือควบคุมอาหาร
กินที่ร้าน/ซื้อใส่ถุง
  1. เลือกใช้เนยแคลอรี่ต่ำ: เลือกใช้เนยที่มีไขมันต่ำหรือเนยจากพืชเพื่อช่วยลดปริมาณแคลอรี่
  2. ลดการใช้เนย: เมื่อสั่งที่ร้านควรขอให้ใส่เนยให้น้อยลงเพื่อลดปริมาณแคลอรี่
  3. เลือกไม่ใส่น้ำตาล: การใส่น้ำตาลเพิ่มในข้าวโพดคลุกเนยจะเพิ่มแคลอรี่ ลองสั่งโดยไม่ใส่น้ำตาล
  4. ขอเกลือน้อยหรือไม่ใส่เกลือ: เกลือไม่เพียงแต่เพิ่มรสเค็ม แต่ยังเพิ่มโซเดียม ลองลดปริมาณหรือไม่ใส่
  5. เลือกรับประทานข้าวโพดเดี่ยว: เลือกรับประทานข้าวโพดโดยไม่นำมาคลุกเนยและเครื่องปรุงเพื่อสุขภาพที่ดีมากขึ้น
ทำกินเอง/ปรุงเอง
  1. ใช้เนยจากพืช: เนยจากพืชมักมีไขมันและแคลอรี่น้อยกว่าเนยจากสัตว์ ลองใช้ในการประกอบอาหาร
  2. ลดปริมาณเนย: ใช้น้อยกว่าที่ควรหรือแค่พอตามความต้องการเพื่อลดแคลอรี่
  3. นึ่งมากกว่าต้มข้าวโพด: การนึ่งข้าวโพดจะคงสารอาหารมากกว่าและไม่จำเป็นต้องใช้น้ำมันหรือเนยเพิ่ม
  4. เพิ่มสมุนไพร: ใช้สมุนไพรหรือเครื่องเทศแทนการปรุงรสด้วยเกลือและเนย
  5. เลือกข้าวโพดหวานธรรมชาติ: เลือกใช้ข้าวโพดหวานธรรมชาติเพื่อลดความจำเป็นในการเติมน้ำตาล
ข้อควรระวังและอาการแพ้อาหาร: ข้าวโพดคลุกเนยอาจมีส่วนประกอบหรือกระบวนการที่ทำให้ผู้ที่แพ้สามารถรับแผลได้ วัตถุดิบหลักในข้าวโพดคลุกเนยคือข้าวโพด ซึ่งบางคนอาจมีปฏิกิริยาตอบสนองที่ไม่พึงประสงค์ หรืออาจเป็นเพราะเนยที่ใช้ด้วยผู้แพ้นมควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าเนยจากพืชเป็นตัวเลือกในกรณีที่ต้อการหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์จากสัตว์ในการปรุงอาหารเองผู้ที่แพ้หรือต้องการหลีกเลี่ยงควรตรวจฉลากอย่างรัดกุมและหมั่นสอบถามพ่อค้าแม่ค้าหรือผู้ปรุงอาหารที่ร้านค้า
รู้หรือไม่? ควรลดปริมาณการใช้เนยในการคลุกข้าวโพด เพื่อให้แคลอรี่ลดลง สามารถใช้เนยคำหนดแคลอรี่ต่ำ หรือเนยจากพืชแทนเนยจากสัตว์เพื่อช่วยลดส่วนนี้ได้ เช่นเดียวกับการลดการใส่น้ำตาลลง ซึ่งจะช่วยลดพลังงานที่ได้รับจากข้าวโพดคลุกเนยได้

ค่าความอิ่ม

(Satiety Index)
40
%
ระดับต่ำ
กินแล้วอยู่ท้องได้ชั่วคราว

ดัชนีน้ำตาล

(Glycemic Index)
50
คะแนน
ระดับค่า GI ปานกลาง
น้ำตาลในเลือดเพิ่มปานกลาง

เส้นใยอาหาร

(Dietary Fiber)
60
คะแนน
มีใยอาหารสูง
ช่วยควบคุมการย่อยได้ดี

ค่าพิวรีน

(Purine Content)
4
mg. ต่อ 100 กรัม
มีพิวรีนต่ำ
สำหรับควบคุมกรดยูริก

เป็นโรคเบาหวาน กินข้าวโพดคลุกเนยได้ไหม?

การกินข้าวโพดคลุกเนยสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานควรระมัดระวัง เพราะข้าวโพดมีค่าดัชนีน้ำตาลค่อนข้างสูงและเพิ่มน้ำตาลในเลือดได้อย่างรวดเร็ว น้ำตาลและเนยที่ใช้จะเพิ่มแคลอรี่และเป็นอุปสรรคต่อการควบคุมน้ำตาลในเลือด ดังนั้นควรกำหนดปริมาณการบริโภคและติดตามระดับน้ำตาลในเลือดอย่างใกล้ชิด

เป็นโรคไต กินข้าวโพดคลุกเนยได้ไหม?

ผู้ป่วยโรคไตควรกินข้าวโพดคลุกเนยด้วยความระมัดระวัง เพราะมีปริมาณโซเดียมที่อาจไม่เหมาะต่อผู้ที่ต้องจำกัดในการบริโภคโซเดียมมาก นอกจากนี้การใช้เนยและเกลืออาจเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะสุขภาพอื่นๆ อย่างไรก็ตามการบริโภคในจำนวนที่จำกัดและดูแลโภชนาการสามารถช่วยลดความเสี่ยงได้

เป็นโรคหัวใจ กินข้าวโพดคลุกเนยได้ไหม?

ผู้มีโรคหัวใจควรรับประทานข้าวโพดคลุกเนยด้วยการระวังการเลือกรสชาติและปริมาณ เนื่องจากโซเดียมจากเกลือและไขมันอิ่มตัวจากเนยอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพหัวใจได้ แต่สามารถเลือกรับประทานได้ในปริมาณที่เหมาะสมและเลือกใช้ไขมันที่ผู้มีโรคหัวใจรับได้

เป็นโรคความดันโลหิตสูง กินข้าวโพดคลุกเนยได้ไหม?

สำหรับผู้ที่มีความดันโลหิต ควรระวังในปริมาณโซเดียมของข้าวโพดคลุกเนยที่อาจจะมีผลต่อการเพิ่มความดันโลหิต เนื่องจากการเติมเกลือในข้าวโพดคลุกเนยสามารถเพิ่มปริมาณโซเดียมในอาหารได้ ควรตรวจสอบและปรับปริมาณการบริโภคให้เหมาะสม

เป็นโรคเก๊าท์ กินข้าวโพดคลุกเนยได้ไหม?

ผู้ที่มีโรคเก๊าท์สามารถรับประทานข้าวโพดคลุกเนยได้ แต่ควรดูแลการรับประทานพิวรีนที่มีอยู่เล็กน้อย เนื่องจากการรับประทานพิวรีนมากเกินไปอาจกระตุ้นให้เกิดภาวะข้ออักเสบได้ ควรจัดการบริโภคอาหารอย่างสมดุลและติดตามอาการของโรคเก๊าท์อย่างใกล้ชิด

เป็นโรคกระเพราะ กินข้าวโพดคลุกเนยได้ไหม?

ผู้มีโรคกระเพาะสามารถกินข้าวโพดคลุกเนยได้ แต่ควรระวังปริมาณเนยและน้ำตาลที่เพิ่มลงไปในอาหาร ซึ่งอาจทำให้เกิดต่อกรดเกินในกระเพาะอาหาร ควรรักษาปริมาณในการบริโภคให้ไม่เกินพอดีและควรมีการตรวจสอบรักษาสุขภาพกระเพาะอาหารเสมอ

ข้อมูลอาจมีความแตกต่างกันไป ตามรูปแบบการปรุง และวัตถุดิบในการประกอบอาหาร รวมไปถึงปริมาณเฉลี่ยตามขนาดภาชนะในการจัดเตรียม
Thai RDI: ความต้องการพลังงานสำหรับคนไทย ที่มีอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป มีความต้องการพลังงานเฉลี่ยวันละ 2,000 กิโลแคลอรี่
เพศชาย ต้องการพลังงานมากกว่า เพศหญิง เนื่องจากเพศชายมักมีมวลกล้ามเนื้อและขนาดร่างกายที่ใหญ่กว่า ซึ่งทำให้ร่างกายต้องการพลังงานมากกว่า
การเรียกหน่วย แคลอรี่ kcal หรือ cal หรือ กิโลแคลอรี่ เพื่อใช้บอกพลังงานในอาหาร ในบริบทของการใช้จริง ให้นิยามได้ว่าเป็นหน่วยความหมายเท่ากัน