22 พฤศจิกายน 2567

แคลอรี่ใน ปอเปี๊ยะสด มีกี่ Kcal

ปอเปี๊ยะสด

ปอเปี๊ยะสด คืออาหารที่นิยมในประเทศไทย มีลักษณะเป็นแผ่นแป้งบางที่ห่อด้วยไส้ต่างๆ สามารถมีได้ทั้งผักต่างๆ หน่อไม้ ถั่วลิสง และเนื้อสัตว์บางชนิด โดยปอเปี๊ยะสดนั้นมีความแตกต่างจากปอเปี๊ยะทอด ตรงที่ไม่ต้องผ่านการทอดในน้ำมัน ทำให้แคลอรี่ที่ได้รับต่ำลงและถือว่าเป็นการบริโภคที่ดีต่อสุขภาพ การบริโภคปอเปี๊ยะสดยังสามารถปรับเปลี่ยนส่วนประกอบต่างๆ ภายในได้ตามความต้องการและความชอบ นอกจากนี้ ตัวน้ำจิ้มของปอเปี๊ยะสดก็มักจะมีรสชาติที่เปรี้ยวหวานและมักประกอบด้วยถั่วลิสงบดหรือหอมแดง เพื่อเพิ่มรสชาติที่กลมกล่อมและหลากหลาย ผักในปอเปี๊ยะสดมีความสดกรอบ ช่วยให้ทุกคำที่ทานมีความต่ำต้องและรับประทานเพลิดเพลิน สามารถรับประทานเป็นอาหารว่างหรืออาหารหลักก็ได้ เหมาะกับผู้ที่ต้องการรักษาสุขภาพและความสวยงามของร่างกาย

โดยเฉลี่ยปริมาณ ปอเปี๊ยะสด 1 ชิ้น (150 กรัม) ให้พลังงาน

= 200 KCAL

(หรือคิดเป็น 133 Kcal ต่อปริมาณ 100 กรัม)
ใน 1 ชิ้นประกอบด้วยไขมัน 7 g.
⋅ พลังงานจากไขมัน = 63 กิโลแคลอรี่
⋅ เฉพาะไขมันคิดเป็น 10% ที่ร่างกายต้องการต่อวัน
ปอเปี๊ยะสด

สัดส่วนสารอาหารหลัก

(สัดส่วนของสารอาหารที่ให้พลังงานกับร่างกาย)

แหล่งที่มาของแคลอรี่

(แบ่งสัดส่วนของ Kcal ที่ได้รับจากวัตถุดิบในอาหาร)
แป้ง 40%
เนื้อสัตว์ 25%
ผัก 15%
น้ำจิ้ม 10%
ถั่วลิสง 5%
แคลอรี่ในปอเปี๊ยะสดมาจากแป้งเป็นหลัก โดยประมาณ 40% ของพลังงานทั้งหมด ตามด้วยเนื้อสัตว์และผัก ซึ่งให้พลังงาน 25% และ 15% ตามลำดับ น้ำจิ้มและถั่วลิสงมีบทบาทเล็กน้อย คิดเป็น 10% และ 5% ของแคลอรี่ทั้งหมด การจัดการส่วนประกอบนี้ช่วยให้ปอเปี๊ยะสดมีความสมดุลของรสชาติและสารอาหารที่ดี

ปริมาณโซเดียมใน ปอเปี๊ยะสด

เฉลี่ยใน 1 ชิ้น
200 - 300
(มิลลิกรัม)
จัดอยู่ในกลุ่มอาหารที่โซเดียม ปานกลาง
ปอเปี๊ยะสด 1 ชิ้น (150 กรัม)
มีโซเดียมประมาณ 200-300 มิลลิกรัม
คิดเป็น 10-15% ของปริมาณโซเดียมที่แนะนำต่อวัน
"ปอเปี๊ยะสดมีปริมาณโซเดียมอยู่ในระดับปานกลางเนื่องจากมีการใช้ส่วนประกอบที่มีการปรุงรส เช่น น้ำจิ้มที่มีเกลือหรือถั่วลิสง การบริโภคในปริมาณที่เหมาะสมจะทำให้ระดับโซเดียมไม่สูงเกินไป และสมดุลต่อสุขภาพ"
องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำให้บริโภคโซเดียมไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัม ต่อวัน

วิตามิน/เกลือแร่ที่พบได้ใน ปอเปี๊ยะสด

ในปอเปี๊ยะสด 1 ชิ้น มีสารอาหารประเภทวิตามินและเกลือแร่ที่พบบ่อยดังนี้
วิตามิน/เกลือแร่ ปริมาณใน 1 จาน %RDI ต่อวัน ได้รับจาก
วิตามินเอ 500.0 ไมโครกรัม 50% ผักสด
วิตามินซี 30.0 มิลลิกรัม 40% พริกหวาน
แคลเซียม 100.0 มิลลิกรัม 10% ถั่วลิสง
ธาตุเหล็ก 2.5 มิลลิกรัม 14% หน่อไม้ฝรั่ง
โพแทสเซียม 5.0 มิลลิกรัม 1% ถั่วงอก
% RDI ต่อวัน หมายถึง สัดส่วนของสารอาหาร ที่ได้รับจากอาหาร เทียบกับปริมาณที่ร่างกายต้องการในหนึ่งวัน

กินปอเปี๊ยะสด 1 ชิ้น ให้พลังงาน 200 แคลอรี่ ต้องเบิร์นแค่ไหน?

เดินเร็ว

ใช้เวลา 0.7 ชั่วโมง

วิ่งจ๊อกกิ้ง

ใช้เวลา 0.3 ชั่วโมง

ว่ายน้ำ

ใช้เวลา 0.4 ชั่วโมง

ปั่นจักรยาน

ใช้เวลา 0.4 ชั่วโมง

ควรเลือกกิจกรรมที่เหมาะสม และเพิ่มความต่อเนื่องในชีวิตประจำวัน เพื่อให้การเผาผลาญมีประสิทธิภาพมากขึ้น

กินปอเปี๊ยะสดให้ได้พลังงานน้อยที่สุด

สำหรับผู้ที่ต้องการกินเพื่อสุขภาพ ลดน้ำหนัก หรือควบคุมอาหาร
กินที่ร้าน/ซื้อใส่ถุง
  1. เลือกแบบไม่มีน้ำตาล ควรเลือกปอเปี๊ยะสดที่ไม่มีการใส่น้ำตาลในน้ำจิ้มหรือแป้ง
  2. หลีกเลี่ยงหัวมันหรือมันฝรั่ง เพราะมีคาร์โบไฮเดรตสูง
  3. เลือกเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน เช่น ไก่หรือปลาที่ไม่มีหนัง
  4. ทานพร้อมผักสดมากกว่าแป้ง จำพวกผักใบเขียวและพริกหวาน
  5. ใช้น้ำจิ้มที่มีแคลอรี่ต่ำ เช่น น้ำจิ้มซีอิ้วหรือซอสงา
ทำกินเอง/ปรุงเอง
  1. ใช้ผักสดเป็นส่วนใหญ่ ใช้ผักต่างๆ แทนการใช้แป้งหรือถั่ว
  2. ลดการใช้น้ำมันในการเตรียม เลือกใช้ผักสดที่ไม่ต้องผัดในน้ำมัน
  3. เลือกโปรตีนที่มีไขมันต่ำ เช่น อกไก่หรือเนื้อปลา
  4. เพิ่มเครื่องปรุงที่เป็นธรรมชาติ ใช้น้ำมะนาวหรือเหล่ามะกรูดแทนเกลือ
  5. เลือกใช้น้ำจิ้มที่ไม่มีน้ำตาล น้ำจิ้มซีฟู้ดหรือซอสหมักไม่มีน้ำตาล
ข้อควรระวังและอาการแพ้อาหาร: ปอเปี๊ยะสดอาจมีส่วนผสมที่ทำให้ผู้ที่แพ้สารบางชนิดต้องระวัง เช่น ถั่วลิสงหรือถั่วอื่นๆ ในการปรุงและการเลือกซอสน้ำจิ้มนั้นยังมีการใช้น้ำมะนาวหรือถั่วงอกซึ่งมีโอกาสในการแพ้ได้ หากมีการแพ้ใดๆ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการรับประทานและหลีกเลี่ยงการบริโภคที่มีความเสี่ยงสูง
รู้หรือไม่? เทคนิคในการรับประทานปอเปี๊ยะสดให้แคลอรี่ต่ำคือ ปรับลดปริมาณส่วนประกอบที่มีไขมันหรือแป้ง เช่น เนื้อสัตว์ที่ใช้ควรเป็นไก่หรือปลา หน่อไม้สดแทนหน่อไม้ดอง และเลือกใช้น้ำจิ้มที่ไม่มีน้ำตาลมาก ลดการใช้ถั่วหรือน้ำมันที่พอกในตอนปรุง

ค่าความอิ่ม

(Satiety Index)
70
%
ระดับปานกลาง
กินแล้วอยู่ท้องปานกลาง

ดัชนีน้ำตาล

(Glycemic Index)
30
คะแนน
ระดับค่า GI ต่ำ
น้ำตาลในเลือดเพิ่มช้าคงที่

เส้นใยอาหาร

(Dietary Fiber)
80
คะแนน
มีใยอาหารสูง
ช่วยควบคุมการย่อยได้ดี

ค่าพิวรีน

(Purine Content)
30
mg. ต่อ 100 กรัม
มีพิวรีนต่ำ
สำหรับควบคุมกรดยูริก

เป็นโรคเบาหวาน กินปอเปี๊ยะสดได้ไหม?

การรับประทานปอเปี๊ยะสดสำหรับผู้ป่วยเบาหวานควรระวังในเรื่องของน้ำจิ้มที่อาจมีน้ำตาล การเลือกใช้ผักสดที่ไม่มีน้ำตาล และควบคุมปริมาณการบริโภคแป้งที่ใช้ในแผ่นแป้งจะช่วยลดความเสี่ยงต่อระดับน้ำตาลที่สูงขึ้น

เป็นโรคไต กินปอเปี๊ยะสดได้ไหม?

โรคไตสามารถรับประทานปอเปี๊ยะสดได้เพราะมีปริมาณโซเดียมที่ไม่สูง แต่ว่าควรระมัดระวังในเรื่องของน้ำจิ้มที่มีเกลือ หากต้องการลดโซเดียมในอาหารสามารถใช้น้ำจิ้มที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ

โรคไตสามารถรับประทานปอเปี๊ยะสดได้เพราะมีปริมาณโซเดียมที่ไม่สูง แต่ว่าควรระมัดระวังในเรื่องของน้ำจิ้มที่มีเกลือ หากต้องการลดโซเดียมในอาหารสามารถใช้น้ำจิ้มที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ

เป็นโรคหัวใจ กินปอเปี๊ยะสดได้ไหม?

การบริโภคปอเปี๊ยะสดเหมาะกับผู้ป่วยโรคหัวใจ เพราะเนื้อสัตว์และผักในนั้นสามารถช่วยเสริมสร้างสุขภาพหัวใจโดยไม่เพิ่มปริมาณไขมัน ทั้งนี้การเลือกซึ่งส่วนผสมที่หลีกเลี่ยงไขมันมากเกินไป เช่น โปรตีนที่มีไขมันน้อย ก็สำคัญ

เป็นโรคความดันโลหิตสูง กินปอเปี๊ยะสดได้ไหม?

สำหรับผู้ป่วยความดันโลหิตสูงควรระวังการบริโภคปอเปี๊ยะสดที่มีส่วนประกอบที่มีโซเดียมสูง เช่น น้ำจิ้มที่มีเกลือ หากสามารถปรับให้ใช้ซอสที่มีโซเดียมต่ำและเลือกส่วนประกอบที่ดีต่อสุขภาพ จะเหมาะสมกับผู้บริโภค

เป็นโรคเก๊าท์ กินปอเปี๊ยะสดได้ไหม?

ปอเปี๊ยะสดมีปริมาณพิวรีนที่ต่ำ แต่อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ป่วยโรคเก๊าท์ ควรระมัดระวังในการบริโภคเนื้อสัตว์ที่อาจเพิ่มปริมาณพิวรีน การบริโภคในปริมาณที่เหมาะสมและเลือกส่วนประกอบที่มีพิวรีนต่ำนั้นจะดีที่สุด

เป็นโรคกระเพราะ กินปอเปี๊ยะสดได้ไหม?

โรคกระเพาะสามารถรับประทานปอเปี๊ยะสดได้ เนื่องจากประกอบด้วยผักสดและเนื้อสัตว์ที่ไม่เผ็ดหรือเค็มเกินไป การหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องปรุงที่มีฤทธิ์เป็นกรดหรือเผ็ดมากจะทำให้อาการกระเพาะอาหารไม่ถูกกระตุ้น

ข้อมูลอาจมีความแตกต่างกันไป ตามรูปแบบการปรุง และวัตถุดิบในการประกอบอาหาร รวมไปถึงปริมาณเฉลี่ยตามขนาดภาชนะในการจัดเตรียม
Thai RDI: ความต้องการพลังงานสำหรับคนไทย ที่มีอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป มีความต้องการพลังงานเฉลี่ยวันละ 2,000 กิโลแคลอรี่
เพศชาย ต้องการพลังงานมากกว่า เพศหญิง เนื่องจากเพศชายมักมีมวลกล้ามเนื้อและขนาดร่างกายที่ใหญ่กว่า ซึ่งทำให้ร่างกายต้องการพลังงานมากกว่า
การเรียกหน่วย แคลอรี่ kcal หรือ cal หรือ กิโลแคลอรี่ เพื่อใช้บอกพลังงานในอาหาร ในบริบทของการใช้จริง ให้นิยามได้ว่าเป็นหน่วยความหมายเท่ากัน