21 พฤศจิกายน 2567

แคลอรี่ใน ปลานิลทอด มีกี่ Kcal

ปลานิลทอด

ปลานิลทอด คือวิธีการปรุงปลานิลที่เริ่มต้นด้วยการล้างทำความสะอาด จากนั้นจึงนำไปหมักกับส่วนประกอบต่างๆ เช่น กระเทียม พริกไทย และเกลือ เพื่อเพิ่มรสชาติ ปลานิลเป็นปลาน้ำจืดที่หาทานได้ง่ายในพื้นที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในประเทศไทย การทอดจะทำให้ปลามีเนื้อที่กรอบนอกนุ่มใน เพิ่มความอร่อยมากขึ้น การทอดในน้ำมันร้อนจะสร้างกลิ่นที่น่ารับประทาน นอกจากรสชาติอร่อยแล้ว ปลานิลยังมีคุณค่าทางอาหารสูง ทั้งโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุ โดยเฉพาะแคลเซียมและฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ต่อกระดูก การปรุงให้ถูกวิธีจะช่วยลดปริมาณไขมัน เพื่อรักษาสุขภาพ ให้การบริโภคที่พอดีและเหมาะสมสำหรับทุกคน ปลานิลทอดเป็นเมนูที่สามารถพบได้ในมื้ออาหารของครอบครัวและงานเลี้ยงต่างๆ

โดยเฉลี่ยปริมาณ ปลานิลทอด 1 ตัว (150 กรัม) ให้พลังงาน

= 200 KCAL

(หรือคิดเป็น 133 Kcal ต่อปริมาณ 100 กรัม)
ใน 1 ตัวประกอบด้วยไขมัน 10 g.
⋅ พลังงานจากไขมัน = 90 กิโลแคลอรี่
⋅ เฉพาะไขมันคิดเป็น 14% ที่ร่างกายต้องการต่อวัน
ปลานิลทอด

สัดส่วนสารอาหารหลัก

(สัดส่วนของสารอาหารที่ให้พลังงานกับร่างกาย)

แหล่งที่มาของแคลอรี่

(แบ่งสัดส่วนของ Kcal ที่ได้รับจากวัตถุดิบในอาหาร)
ไขมัน 65%
โปรตีน 30%
คาร์โบไฮเดรต 5%
พลังงานที่ได้จากปลานิลทอดส่วนใหญ่จะมาจากไขมันซึ่งเป็นส่วนที่ให้พลังงานสูงที่สุด รองลงมาคือโปรตีนซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญสำหรับการสร้างกล้ามเนื้อและการเจริญเติบโต ส่วนคาร์โบไฮเดรตมีปริมาณน้อยที่สุด

ปริมาณโซเดียมใน ปลานิลทอด

เฉลี่ยใน 1 ตัว
300 - 400
(มิลลิกรัม)
จัดอยู่ในกลุ่มอาหารที่โซเดียม ค่อนข้างสูง
ปลานิลทอด 1 ตัว (150 กรัม)
มีโซเดียมประมาณ 300-400 มิลลิกรัม
คิดเป็น 20-25% ของปริมาณโซเดียมที่แนะนำต่อวัน
"ปลานิลทอดมีปริมาณโซเดียมที่ค่อนข้างสูงเนื่องจากการใช้เกลือในการหมักและปรุงรสเพื่อเพิ่มรสชาติ เพื่อลดการบริโภคโซเดียมควรหลีกเลี่ยงการใช้เกลือและซอสในการเสิร์ฟเพิ่มเติม"
องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำให้บริโภคโซเดียมไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัม ต่อวัน

วิตามิน/เกลือแร่ที่พบได้ใน ปลานิลทอด

ในปลานิลทอด 1 ตัว มีสารอาหารประเภทวิตามินและเกลือแร่ที่พบบ่อยดังนี้
วิตามิน/เกลือแร่ ปริมาณใน 1 จาน %RDI ต่อวัน ได้รับจาก
โพแทสเซียม 375.0 มิลลิกรัม 8% เนื้อปลา
แคลเซียม 18.0 มิลลิกรัม 2% เนื้อปลา
ฟอสฟอรัส 120.0 มิลลิกรัม 17% เนื้อปลา
เหล็ก 1.0 มิลลิกรัม 6% เนื้อปลา
แมกนีเซียม 30.0 มิลลิกรัม 9% เนื้อปลา
% RDI ต่อวัน หมายถึง สัดส่วนของสารอาหาร ที่ได้รับจากอาหาร เทียบกับปริมาณที่ร่างกายต้องการในหนึ่งวัน

กินปลานิลทอด 1 ตัว ให้พลังงาน 200 แคลอรี่ ต้องเบิร์นแค่ไหน?

เดินเร็ว

ใช้เวลา 0.7 ชั่วโมง

วิ่งจ๊อกกิ้ง

ใช้เวลา 0.3 ชั่วโมง

ว่ายน้ำ

ใช้เวลา 0.4 ชั่วโมง

ปั่นจักรยาน

ใช้เวลา 0.4 ชั่วโมง

ควรเลือกกิจกรรมที่เหมาะสม และเพิ่มความต่อเนื่องในชีวิตประจำวัน เพื่อให้การเผาผลาญมีประสิทธิภาพมากขึ้น

กินปลานิลทอดให้ได้พลังงานน้อยที่สุด

สำหรับผู้ที่ต้องการกินเพื่อสุขภาพ ลดน้ำหนัก หรือควบคุมอาหาร
กินที่ร้าน/ซื้อใส่ถุง
  1. เลือกปลานิลสด ควรเลือกปลาสดเพื่อลดการใช้สารอาหารสังเคราะห์หรือสารกันบูดที่อาจเพิ่มพลังงาน
  2. หลีกเลี่ยงซอสเพิ่มเติม ลดการใช้ซอสที่มีน้ำตาลหรือเกลือสูงเพื่อลดปริมาณแคลอรี่และโซเดียม
  3. เลือกน้ำมันที่ดีต่อสุขภาพ ถามถึงน้ำมันที่ใช้ในการทอด และควรเลือกใช้ที่มีไขมันไม่อิ่มตัวเช่น น้ำมันมะกอก
  4. สั่งขอปลาแบบไม่ราดซอส ปรึกษาพนักงานว่าขอราดซอสหรือปรุงหน้าอาหารน้อยที่สุด
  5. แบ่งปันกับผู้อื่น เลือกทานร่วมกับเพื่อนเพื่อลดปริมาณแคลอรี่ที่ได้รับต่อคน
ทำกินเอง/ปรุงเอง
  1. ล้างปลาด้วยน้ำเกลือ การล้างด้วยน้ำเกลือจะช่วยลดกลิ่นคาวและลดการใช้น้ำแข็งที่เก็บไขมันในเนื้อปลา
  2. ใช้สเปรย์น้ำมัน เพื่อควบคุมปริมาณน้ำมันที่ใช้ให้มากที่สุด เพื่อป้องกันการใช้มากเกินไป
  3. เลือกหมักด้วยพริกไทยและมะนาว แทนการหมักด้วยซอสที่จะเพิ่มแคลอรี่และโซเดียม
  4. ใช้กระทะแบบ non-stick เพื่อลดการใช้น้ำมันในการทอดแต่ยังคงความกรอบได้
  5. เลือกส่วนของปลาที่มีไขมันน้อย เช่น เนื้อปลาแทนหางหรือส่วนที่มีไขมันสูง
ข้อควรระวังและอาการแพ้อาหาร: ผู้ที่แพ้อาหารทะเลควรระวัง เนื่องจากปลานิลเป็นปลาน้ำจืดแต่บางครั้งอาจมีการแพ้ที่คล้ายกับอาหารทะเลอื่นๆ การปรุงอาหารเช่นการหมักหรือปรุงรสอาจใช้ส่วนผสมที่มีสารก่อภูมิแพ้เช่นพริกไทยหรือซอสถั่วเหลือง หากไม่แน่ใจควรปรึกษานักโภชนาการหรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนการบริโภคเพื่อป้องกันการเกิดอาการแพ้ที่ไม่พึงประสงค์ ในบางกรณีควรหลีกเลี่ยงการทานปลาโปรตีนสูงหากมีประวัติแพ้อาหารประเภทโปรตีน
รู้หรือไม่? ถ้าต้องการลดแคลอรี่ที่ได้รับจากการทานปลานิลทอด ให้เน้นการเตรียมปลาที่สดใหม่และหลีกเลี่ยงการใช้ส่วนประกอบที่มีไขมันสูง เช่น การหมักปลาด้วยเครื่องปรุงที่มีน้ำมัน ให้ใช้เครื่องปรุงที่ไขมันน้อยและเลือกน้ำมันที่ดีต่อสุขภาพ เช่น น้ำมันมะกอกหรือสเปรย์ทำอาหาร อีกทั้งการทอดในอุณหภูมิที่เหมาะสมจะช่วยลดปริมาณน้ำมันที่ซึมเข้าสู่ปลา

ค่าความอิ่ม

(Satiety Index)
70
%
ระดับสูง
กินแล้วอยู่ท้องนาน

ดัชนีน้ำตาล

(Glycemic Index)
30
คะแนน
ระดับค่า GI ต่ำ
น้ำตาลในเลือดเพิ่มช้าคงที่

เส้นใยอาหาร

(Dietary Fiber)
10
คะแนน
มีใยอาหารต่ำ
หรือมีใยอาหารเล็กน้อย

ค่าพิวรีน

(Purine Content)
75
mg. ต่อ 100 กรัม
มีพิวรีนปานกลาง
ผู้ป่วยโรคเก๊าท์ต้องระวัง

เป็นโรคเบาหวาน กินปลานิลทอดได้ไหม?

ปลานิลทอดสามารถเป็นอาหารที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานได้หากบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม อย่างไรก็ตามเนื่องจากกระบวนการทอดอาจมีการใช้น้ำมันที่ทำให้เกิดแคลอรี่สูงขึ้น ควรคำนึงถึงการบริโภคพร้อมกับอาหารประเภทอื่นที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำ

เป็นโรคไต กินปลานิลทอดได้ไหม?

สำหรับผู้ที่มีภาวะโรคไตควรระวังในเรื่องของปริมาณโปรตีนและโซเดียมในอาหาร เนื่องจากปลานิลทอดมีส่วนประกอบที่อาจทำให้เกิดภาระต่อการขับของเสียในไตได้ หากบริโภคควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์หรือนักโภชนาการ

เป็นโรคหัวใจ กินปลานิลทอดได้ไหม?

ปลานิลทอดเป็นอาหารที่สามารถบริโภคได้สำหรับคนที่เป็นโรคหัวใจ แต่ควรตรวจสอบการใช้วัตถุดิบที่มีปริมาณไขมันสูง เพื่อไม่ให้เกินข้อจำกัดของพลังงานและโคเลสเตอรอลในอาหาร ต้องมั่นใจว่าไม่มีการใช้เกลือหรือซอสดิบที่เกินพอดี

เป็นโรคความดันโลหิตสูง กินปลานิลทอดได้ไหม?

แม้ว่าปลานิลทอดจะมีโซเดียมอยู่ในปริมาณไม่น้อย แต่สามารถทานได้ถ้าควบคุมปริมาณเกลือที่เพิ่มเข้าไป ควรหลีกเลี่ยงการใช้ซอสเพิ่มเติมและเลือกบริโภคอาหารที่มีโพแทสเซียมสูงช่วยควบคุมสมดุลโซเดียมในร่างกาย

เป็นโรคเก๊าท์ กินปลานิลทอดได้ไหม?

การบริโภคปลานิลทอดสำหรับผู้ที่มีโรคเก๊าท์ควรระวังเพราะพิวรีนที่มีอยู่ในปลาอาจเพิ่มความรุนแรงของอาการได้ การบริโภคควรอยู่ในปริมาณที่เหมาะสมและภายใต้การคำแนะนำจากแพทย์

เป็นโรคกระเพราะ กินปลานิลทอดได้ไหม?

ปลานิลทอดสามารถบริโภคได้สำหรับผู้ที่มีโรคกระเพาะหากปรุงในปริมาณไขมันที่เหมาะสม แต่ควรระวังเครื่องปรุงรสที่อาจทำให้เกิดการระคายเคืองของกระเพาะอาหาร ความกรอบของปลาทำให้ย่อยง่ายไม่ต้องใช้แรงมากในการย่อยอาหาร

ข้อมูลอาจมีความแตกต่างกันไป ตามรูปแบบการปรุง และวัตถุดิบในการประกอบอาหาร รวมไปถึงปริมาณเฉลี่ยตามขนาดภาชนะในการจัดเตรียม
Thai RDI: ความต้องการพลังงานสำหรับคนไทย ที่มีอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป มีความต้องการพลังงานเฉลี่ยวันละ 2,000 กิโลแคลอรี่
เพศชาย ต้องการพลังงานมากกว่า เพศหญิง เนื่องจากเพศชายมักมีมวลกล้ามเนื้อและขนาดร่างกายที่ใหญ่กว่า ซึ่งทำให้ร่างกายต้องการพลังงานมากกว่า
การเรียกหน่วย แคลอรี่ kcal หรือ cal หรือ กิโลแคลอรี่ เพื่อใช้บอกพลังงานในอาหาร ในบริบทของการใช้จริง ให้นิยามได้ว่าเป็นหน่วยความหมายเท่ากัน