หน้าแรก › แคลอรี่ › แคลอรี่ของหมูปิ้ง

แคลอรี่ใน หมูปิ้ง มีกี่ Kcal

หมูปิ้งคืออาหารท้องถิ่นยอดนิยมของไทยที่มักจะพบขายตามท้องถนน โดยมีลักษณะเป็นเนื้อหมูที่หมักด้วยเครื่องปรุงหลากหลาย เช่น น้ำปลา น้ำตาล และซอสปรุงรส จากนั้นจึงนำไปย่างบนเตาถ่าน ทำให้ได้กลิ่นหอมและรสชาติหวานนุ่ม หมูปิ้งมักจะเสิร์ฟคู่กับข้าวเหนียว เหมาะสำหรับรับประทานเป็นอาหารเช้าหรือของว่างกลางวัน

โดยเฉลี่ยปริมาณ หมูปิ้ง 1 ไม้ (40 กรัม) ให้พลังงาน

= 150 KCAL

(หรือคิดเป็น 375 Kcal ต่อปริมาณ 100 กรัม)

ใน 1 ไม้ประกอบด้วยไขมัน 8 g.

⋅ พลังงานจากไขมัน = 72 กิโลแคลอรี่

⋅ เฉพาะไขมันคิดเป็น 11% ที่ร่างกายต้องการต่อวัน

สัดส่วนสารอาหารหลัก

(สัดส่วนของสารอาหารที่ให้พลังงานกับร่างกาย)

แหล่งที่มาของแคลอรี่

(แบ่งสัดส่วนของ Kcal ที่ได้รับจากวัตถุดิบในอาหาร)

เนื้อหมู 60%

ไขมันหมู 30%

น้ำตาล 10%

พลังงานส่วนใหญ่ในหมูปิ้งมาจากเนื้อหมูซึ่งให้โปรตีนและไขมันหมู โดยมีส่วนประกอบเล็กน้อยจากน้ำตาลที่ใช้ในการหมักให้รสหวาน ความสมดุลระหว่างโปรตีนและไขมันทำให้เป็นอาหารที่มีพลังงานค่อนข้างสูง

ปริมาณโซเดียมใน หมูปิ้ง

เฉลี่ยใน 1 ไม้

150 - 200

(มิลลิกรัม)

จัดอยู่ในกลุ่มอาหารที่โซเดียม ปานกลาง

หมูปิ้ง 1 ไม้ (40 กรัม)

มีโซเดียมประมาณ 150-200 มิลลิกรัม

คิดเป็น 10-13% ของปริมาณโซเดียมที่แนะนำต่อวัน

"หมูปิ้งมีโซเดียมระดับกลางเนื่องจากใช้การหมักด้วยเกลือและซอสปรุงรสต่างๆ ซึ่งเพิ่มปริมาณโซเดียมในเนื้อหมู"

องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำให้บริโภคโซเดียมไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัม ต่อวัน

วิตามิน/เกลือแร่ที่พบได้ใน หมูปิ้ง

ในหมูปิ้ง 1 ไม้ มีสารอาหารประเภทวิตามินและเกลือแร่ที่พบบ่อยดังนี้

วิตามิน/เกลือแร่	ปริมาณใน 1 จาน	%RDI ต่อวัน	ได้รับจาก
วิตามินบี12	0.8 ไมโครกรัม	33%	เนื้อหมู
เหล็ก	0.6 มิลลิกรัม	8%	เนื้อหมู
ฟอสฟอรัส	100.0 มิลลิกรัม	10%	เนื้อหมู
ไนอาซิน	3.5 มิลลิกรัม	22%	เนื้อหมู
สังกะสี	1.2 มิลลิกรัม	8%	เนื้อหมู

% RDI ต่อวัน หมายถึง สัดส่วนของสารอาหาร ที่ได้รับจากอาหาร เทียบกับปริมาณที่ร่างกายต้องการในหนึ่งวัน

กินหมูปิ้ง 1 ไม้ ให้พลังงาน 150 แคลอรี่ ต้องเบิร์นแค่ไหน?

เดินเร็ว

ใช้เวลา 0.5 ชั่วโมง

วิ่งจ๊อกกิ้ง

ใช้เวลา 0.3 ชั่วโมง

ว่ายน้ำ

ใช้เวลา 0.3 ชั่วโมง

ปั่นจักรยาน

ใช้เวลา 0.3 ชั่วโมง

ควรเลือกกิจกรรมที่เหมาะสม และเพิ่มความต่อเนื่องในชีวิตประจำวัน เพื่อให้การเผาผลาญมีประสิทธิภาพมากขึ้น

กินหมูปิ้งให้ได้พลังงานน้อยที่สุด

สำหรับผู้ที่ต้องการกินเพื่อสุขภาพ ลดน้ำหนัก หรือควบคุมอาหาร

กินที่ร้าน/ซื้อใส่ถุง

เลือกหมูปิ้งที่มีไขมันน้อย: ควรเลือกหมูปิ้งที่ใช้ส่วนเนื้อหมูไม่ติดมันหรือน้อยที่สุดเพื่อลดแคลอรี่จากไขมัน
ลดการใช้ซอสปรุงรส: ซอสที่ใช้ในการหมักหมูมักมีน้ำตาลและเกลือสูง เลือกรับประทานหมูปิ้งที่ใช้ซอสปรุงรสในปริมาณน้อย
รับประทานควบคู่กับผัก: ผักจะช่วยเพิ่มใยอาหารและช่วยควบคุมปริมาณแคลอรี่ที่รับประทาน
หลีกเลี่ยงการจิ้มน้ำจิ้ม: น้ำจิ้มมักมีน้ำตาลและเกลือสูง การหลีกเลี่ยงน้ำจิ้มจะช่วยลดแคลอรี่ได้
เลือกหมูปิ้งที่ไม่มีการย่างเกรียม: การย่างเกรียมอาจทำให้เกิดสารก่อมะเร็งและเพิ่มความเสี่ยงต่อสุขภาพ

ทำกินเอง/ปรุงเอง

ใช้ส่วนหมูที่ไม่มีไขมัน: เลือกใช้เนื้อหมูที่ไม่ติดมันในการทำหมูปิ้งเพื่อลดปริมาณไขมัน
ใช้ซอสหมักที่ไม่มีน้ำตาล: เลือกซอสหมักที่มีส่วนประกอบจากสมุนไพรและเครื่องเทศแทนน้ำตาลเพื่อลดแคลอรี่
ย่างโดยไม่ใช้น้ำมัน: ใช้การย่างบนเตาโดยไม่ใช้น้ำมันจะช่วยลดปริมาณแคลอรี่ที่เพิ่มจากน้ำมัน
เลือกวิธีการย่างที่ควบคุมความร้อนได้: ย่างหมูให้พอดีเพื่อป้องกันการเกิดสารพิษจากการย่างเกรียม
เสิร์ฟพร้อมผักสด: การรับประทานหมูปิ้งควบคู่กับผักสดจะช่วยเพิ่มใยอาหารและลดการบริโภคแคลอรี่

ข้อควรระวังและอาการแพ้อาหาร: หมูปิ้งประกอบด้วยส่วนผสมหลักๆ เช่น เนื้อหมู ซอสหมัก และเครื่องปรุงรสต่างๆ ผู้ที่มีประวัติแพ้อาหาร เช่น แพ้เนื้อหมูหรือสารปรุงรสในซอสหมัก ควรระมัดระวังในการบริโภค นอกจากนี้ ผู้ที่มีปัญหาแพ้อาหารที่มีเกลือสูง หรือแพ้ส่วนผสมในซอสที่ใช้ในการหมัก ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานหมูปิ้งในกรณีที่ไม่แน่ใจเกี่ยวกับส่วนประกอบที่ใช้ในการทำ

รู้หรือไม่? การลดแคลอรี่จากการรับประทานหมูปิ้งสามารถทำได้โดยการเลือกหมูปิ้งที่ใช้เนื้อหมูไม่ติดมันและลดปริมาณน้ำตาลในสูตรการหมัก รวมทั้งควรรับประทานหมูปิ้งควบคู่กับอาหารที่มีกากใยสูง เช่น ผักสด เพื่อเพิ่มปริมาณไฟเบอร์ และควบคุมปริมาณพลังงานที่ได้รับต่อวัน

ค่าความอิ่ม

(Satiety Index)

ระดับปานกลาง
กินแล้วอยู่ท้องปานกลาง

ดัชนีน้ำตาล

(Glycemic Index)

คะแนน

ระดับค่า GI ต่ำ
น้ำตาลในเลือดเพิ่มช้าคงที่

เส้นใยอาหาร

(Dietary Fiber)

คะแนน

มีใยอาหารต่ำมาก
หรือแทบไม่มีใยอาหารเลย

ค่าพิวรีน

(Purine Content)

150

mg. ต่อ 100 กรัม

มีพิวรีนปานกลาง
ผู้ป่วยโรคเก๊าท์ต้องระวัง

เป็นโรคเบาหวาน กินหมูปิ้งได้ไหม?

ผู้ป่วยเบาหวานสามารถรับประทานหมูปิ้งได้ แต่ควรควบคุมปริมาณเนื่องจากมีน้ำตาลในซอสหมักและไขมันในเนื้อหมูที่อาจเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด ควรเลือกหมูปิ้งที่ไม่มีการเติมน้ำตาลมาก และไม่ติดมัน รวมถึงรับประทานควบคู่กับผักเพื่อเพิ่มใยอาหาร

เป็นโรคไต กินหมูปิ้งได้ไหม?

ผู้ป่วยโรคไตควรระมัดระวังการบริโภคหมูปิ้ง เนื่องจากมีปริมาณโซเดียมในซอสหมักและเครื่องปรุงที่สูง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของไต การเลือกรับประทานหมูปิ้งที่ไม่ใส่ซอสปรุงรสหรือน้ำจิ้มจะช่วยลดความเสี่ยงได้

เป็นโรคหัวใจ กินหมูปิ้งได้ไหม?

หมูปิ้งมีไขมันและโซเดียมในปริมาณสูง ผู้ป่วยโรคหัวใจควรหลีกเลี่ยงหมูปิ้งที่มีไขมันสูงและควรเลือกรับประทานหมูปิ้งที่ไม่มีการใส่ซอสหมักหรือน้ำจิ้มที่มีโซเดียมสูงเพื่อลดความเสี่ยงต่อสุขภาพหัวใจ

เป็นโรคความดันโลหิตสูง กินหมูปิ้งได้ไหม?

ผู้ป่วยความดันโลหิตสูงควรหลีกเลี่ยงการบริโภคหมูปิ้งที่มีซอสหมักหรือปรุงรสที่มีโซเดียมสูง เพราะอาจทำให้ความดันโลหิตเพิ่มขึ้นได้ การเลือกรับประทานหมูปิ้งที่ไม่มีซอสหรือการจิ้มน้ำจิ้มจะช่วยลดปริมาณโซเดียมได้

เป็นโรคเก๊าท์ กินหมูปิ้งได้ไหม?

ผู้ป่วยโรคเก๊าท์ควรระมัดระวังในการบริโภคหมูปิ้ง เนื่องจากเนื้อหมูมีพิวรีนในปริมาณปานกลาง ซึ่งอาจกระตุ้นการสะสมของกรดยูริกในร่างกายได้ ควรจำกัดปริมาณและเลือกเนื้อหมูที่มีคุณภาพเพื่อลดความเสี่ยง

เป็นโรคกระเพราะ กินหมูปิ้งได้ไหม?

ผู้ป่วยโรคกระเพาะอาหารควรระมัดระวังในการบริโภคหมูปิ้งที่มีการหมักด้วยเครื่องเทศหรือซอสปรุงรสที่มีความเผ็ดร้อน เพราะอาจกระตุ้นให้เกิดอาการระคายเคืองในกระเพาะอาหาร ควรเลือกหมูปิ้งที่ไม่ใส่เครื่องปรุงรสจัดและรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม