23 พฤศจิกายน 2567

แคลอรี่ใน ก๋วยจั๊บ มีกี่ Kcal

ก๋วยจั๊บ

ก๋วยจั๊บคืออาหารจานเส้นที่มีลักษณะเป็นน้ำซุปใส ซึ่งนิยมใช้เส้นก๋วยจั๊บที่มีลักษณะหนาและแบน ต้มในน้ำซุปที่ปรุงรสด้วยเครื่องเทศหลากชนิด ก๋วยจั๊บสามารถมีส่วนประกอบที่หลากหลาย เช่น หมูกรอบ หมูชิ้น ตับ ไส้หมู เลือดหมู ไข่ต้ม และเครื่องในอื่นๆ โดยมีการปรุงรสด้วยพริกไทย ซีอิ๊วขาว และเครื่องปรุงอื่นๆ เสิร์ฟพร้อมกับผักชีและกระเทียมเจียว น้ำซุปที่ใช้มักจะเป็นน้ำซุปกระดูกหมู ทำให้มีกลิ่นหอมและรสชาติกลมกล่อม เหมาะสำหรับรับประทานในมื้อเช้าหรือมื้อเย็น ก๋วยจั๊บเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย และสามารถหาทานได้ตามร้านอาหารทั่วไป

โดยเฉลี่ยปริมาณ ก๋วยจั๊บ 1 ถ้วย (300 กรัม) ให้พลังงาน

= 350 KCAL

(หรือคิดเป็น 117 Kcal ต่อปริมาณ 100 กรัม)
ใน 1 ถ้วยประกอบด้วยไขมัน 12 g.
⋅ พลังงานจากไขมัน = 108 กิโลแคลอรี่
⋅ เฉพาะไขมันคิดเป็น 17% ที่ร่างกายต้องการต่อวัน
ก๋วยจั๊บ

สัดส่วนสารอาหารหลัก

(สัดส่วนของสารอาหารที่ให้พลังงานกับร่างกาย)

แหล่งที่มาของแคลอรี่

(แบ่งสัดส่วนของ Kcal ที่ได้รับจากวัตถุดิบในอาหาร)
เส้นก๋วยจั๊บ 45%
หมูกรอบ 30%
เลือดหมู 15%
น้ำซุป 10%
แคลอรี่ในก๋วยจั๊บ 1 ถ้วยส่วนใหญ่มาจากเส้นก๋วยจั๊บซึ่งคิดเป็น 45% รองลงมาคือหมูกรอบที่ให้พลังงานประมาณ 30% เลือดหมูให้พลังงาน 15% และน้ำซุปให้พลังงานอีก 10% โดยแต่ละส่วนผสมนี้มีการให้แคลอรี่ในปริมาณที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับสูตรและวัตถุดิบที่ใช้ในแต่ละร้าน

ปริมาณโซเดียมใน ก๋วยจั๊บ

เฉลี่ยใน 1 ถ้วย
600 - 800
(มิลลิกรัม)
จัดอยู่ในกลุ่มอาหารที่โซเดียม ค่อนข้างสูง
ก๋วยจั๊บ 1 ถ้วย (300 กรัม)
มีโซเดียมประมาณ 600-800 มิลลิกรัม
คิดเป็น 30-40% ของปริมาณโซเดียมที่แนะนำต่อวัน
"ก๋วยจั๊บมีปริมาณโซเดียมค่อนข้างสูง เนื่องจากส่วนประกอบหลายอย่าง เช่น น้ำซุปและเครื่องปรุงรสที่ใช้ในการทำ อาจมีปริมาณเกลือสูง ควรระวังการบริโภคเกลือเกินปริมาณที่แนะนำต่อวัน โดยเฉพาะหากมีการเพิ่มซีอิ๊วหรือเครื่องปรุงรสเพิ่มเติม"
องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำให้บริโภคโซเดียมไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัม ต่อวัน

วิตามิน/เกลือแร่ที่พบได้ใน ก๋วยจั๊บ

ในก๋วยจั๊บ 1 ถ้วย มีสารอาหารประเภทวิตามินและเกลือแร่ที่พบบ่อยดังนี้
วิตามิน/เกลือแร่ ปริมาณใน 1 จาน %RDI ต่อวัน ได้รับจาก
วิตามินเอ 50.0 ไมโครกรัม 6% ผักชีและผักโรยหน้า
วิตามินซี 12.0 มิลลิกรัม 13% ผักชีและกระเทียมเจียว
แคลเซียม 40.0 มิลลิกรัม 4% กระดูกหมูในน้ำซุป
ธาตุเหล็ก 1.5 มิลลิกรัม 8% เลือดหมู
โพแทสเซียม 200.0 มิลลิกรัม 5% น้ำซุป
% RDI ต่อวัน หมายถึง สัดส่วนของสารอาหาร ที่ได้รับจากอาหาร เทียบกับปริมาณที่ร่างกายต้องการในหนึ่งวัน

กินก๋วยจั๊บ 1 ถ้วย ให้พลังงาน 350 แคลอรี่ ต้องเบิร์นแค่ไหน?

เดินเร็ว

ใช้เวลา 1.2 ชั่วโมง

วิ่งจ๊อกกิ้ง

ใช้เวลา 0.6 ชั่วโมง

ว่ายน้ำ

ใช้เวลา 0.7 ชั่วโมง

ปั่นจักรยาน

ใช้เวลา 0.7 ชั่วโมง

ควรเลือกกิจกรรมที่เหมาะสม และเพิ่มความต่อเนื่องในชีวิตประจำวัน เพื่อให้การเผาผลาญมีประสิทธิภาพมากขึ้น

กินก๋วยจั๊บให้ได้พลังงานน้อยที่สุด

สำหรับผู้ที่ต้องการกินเพื่อสุขภาพ ลดน้ำหนัก หรือควบคุมอาหาร
กินที่ร้าน/ซื้อใส่ถุง
  1. เลือกเส้นก๋วยจั๊บแบบแห้ง เลือกเส้นก๋วยจั๊บที่ทำจากแป้งข้าวเจ้าแทนเส้นก๋วยจั๊บสำเร็จรูปที่อาจมีแคลอรี่สูง
  2. ลดปริมาณน้ำมันในน้ำซุป ควรเลือกน้ำซุปที่ไม่มันเกินไป หลีกเลี่ยงน้ำซุปที่มีกระดูกหมูทอดหรือหมูกรอบ
  3. เพิ่มผัก ใส่ผักชีหรือผักชนิดอื่นเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มใยอาหารและลดแคลอรี่
  4. เลี่ยงหมูกรอบ เลือกส่วนหมูต้มแทนหมูกรอบเพื่อลดไขมันและแคลอรี่
  5. หลีกเลี่ยงเครื่องปรุงรสเกลือสูง เช่น ซีอิ๊วขาวหรือซอสพริก เพื่อลดปริมาณโซเดียม
ทำกินเอง/ปรุงเอง
  1. ใช้เส้นข้าวกล้อง เปลี่ยนจากเส้นก๋วยจั๊บปกติเป็นเส้นข้าวกล้องเพื่อเพิ่มใยอาหารและลดแคลอรี่
  2. ต้มน้ำซุปเอง ทำซุปจากกระดูกหมูหรือไก่ แต่ควรเลี่ยงการใส่น้ำมันหมูหรือเครื่องใน
  3. หลีกเลี่ยงการใช้น้ำมัน หลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันในกระบวนการปรุง เช่น ในการเจียวกระเทียม
  4. ใช้เนื้อหมูไม่ติดมัน เลือกใช้เนื้อหมูไม่ติดมันหรืออกไก่แทนหมูกรอบหรือหมูสามชั้น
  5. เพิ่มผักหลากสี ใส่ผักใบเขียวหรือผักชนิดอื่น เช่น ผักบุ้งหรือคะน้า เพื่อเพิ่มสารอาหารและใยอาหาร
ข้อควรระวังและอาการแพ้อาหาร: ก๋วยจั๊บมีส่วนประกอบหลายชนิดที่อาจเป็นอันตรายสำหรับคนที่แพ้อาหาร เช่น หมูกรอบที่มีการทอดในน้ำมัน หรือเครื่องในหมู ซึ่งอาจทำให้เกิดการแพ้ได้ นอกจากนี้ยังมีซีอิ๊วขาวและพริกไทยที่อาจทำให้เกิดการแพ้ในบางคน หากคุณแพ้ถั่วเหลืองหรือส่วนผสมที่ใช้ในน้ำซุปควรระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการบริโภค การปรึกษาแพทย์หรือตรวจสอบวัตถุดิบก่อนรับประทานจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ
รู้หรือไม่? การลดแคลอรี่จากการกินก๋วยจั๊บทำได้โดยเลือกใช้เนื้อหมูชิ้นแทนหมูกรอบ หลีกเลี่ยงการใส่ไข่ต้มและเครื่องใน ลดการใช้กระเทียมเจียวและหมูกรอบที่มีไขมันสูง นอกจากนี้ยังควรลดปริมาณเส้นก๋วยจั๊บหากต้องการควบคุมคาร์โบไฮเดรต รวมถึงหลีกเลี่ยงการเติมซีอิ๊วหรือเครื่องปรุงรสเค็มเกินไป เพื่อลดปริมาณโซเดียมที่ได้รับในแต่ละมื้อ

ค่าความอิ่ม

(Satiety Index)
80
%
ระดับสูง
กินแล้วอยู่ท้องนาน

ดัชนีน้ำตาล

(Glycemic Index)
55
คะแนน
ระดับค่า GI ปานกลาง
น้ำตาลในเลือดเพิ่มปานกลาง

เส้นใยอาหาร

(Dietary Fiber)
10
คะแนน
มีใยอาหารต่ำ
หรือมีใยอาหารเล็กน้อย

ค่าพิวรีน

(Purine Content)
150
mg. ต่อ 100 กรัม
มีพิวรีนปานกลาง
ผู้ป่วยโรคเก๊าท์ต้องระวัง

เป็นโรคเบาหวาน กินก๋วยจั๊บได้ไหม?

ผู้ป่วยโรคเบาหวานสามารถกินก๋วยจั๊บได้ แต่ควรระวังปริมาณคาร์โบไฮเดรตจากเส้นก๋วยจั๊บและซอสที่มีน้ำตาลสูง การเลือกส่วนประกอบที่เป็นเนื้อไม่ติดมันและการปรับลดปริมาณน้ำตาลและซีอิ๊วที่ใช้ในการปรุงอาหารจะช่วยลดความเสี่ยงในการเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด

เป็นโรคไต กินก๋วยจั๊บได้ไหม?

ก๋วยจั๊บมีโซเดียมค่อนข้างสูงจากน้ำซุปและซีอิ๊วขาว ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อผู้ป่วยโรคไต ควรเลือกซุปที่มีการปรุงรสไม่เค็มเกินไปและหลีกเลี่ยงการใส่เครื่องในหรือหมูกรอบ

เป็นโรคหัวใจ กินก๋วยจั๊บได้ไหม?

ผู้ป่วยโรคหัวใจควรระมัดระวังการบริโภคก๋วยจั๊บ เนื่องจากอาจมีปริมาณโซเดียมสูงจากน้ำซุปและซีอิ๊ว ซึ่งอาจทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น ควรเลือกสูตรที่ใส่น้ำมันน้อยและปรุงรสเค็มน้อย

เป็นโรคความดันโลหิตสูง กินก๋วยจั๊บได้ไหม?

ก๋วยจั๊บมีปริมาณโซเดียมจากน้ำซุปและเครื่องปรุงรสสูง ผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตควรหลีกเลี่ยงการเติมซีอิ๊วเพิ่ม และเลือกร้านที่ปรุงรสน้อย

เป็นโรคเก๊าท์ กินก๋วยจั๊บได้ไหม?

ก๋วยจั๊บมีเครื่องในและเนื้อหมูที่เป็นแหล่งพิวรีนสูง ซึ่งอาจทำให้ผู้ป่วยโรคเก๊าท์มีอาการกำเริบ ควรหลีกเลี่ยงส่วนประกอบเหล่านี้หรือเลือกวัตถุดิบที่มีพิวรีนต่ำ

เป็นโรคกระเพราะ กินก๋วยจั๊บได้ไหม?

ก๋วยจั๊บมีน้ำซุปที่รสจัดและเครื่องเทศ เช่น พริกไทย อาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองกระเพาะในผู้ที่มีปัญหาโรคกระเพาะ ควรเลือกสูตรที่รสชาติไม่จัดและหลีกเลี่ยงการใส่พริกหรือเครื่องเทศมากเกินไป

ข้อมูลอาจมีความแตกต่างกันไป ตามรูปแบบการปรุง และวัตถุดิบในการประกอบอาหาร รวมไปถึงปริมาณเฉลี่ยตามขนาดภาชนะในการจัดเตรียม
Thai RDI: ความต้องการพลังงานสำหรับคนไทย ที่มีอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป มีความต้องการพลังงานเฉลี่ยวันละ 2,000 กิโลแคลอรี่
เพศชาย ต้องการพลังงานมากกว่า เพศหญิง เนื่องจากเพศชายมักมีมวลกล้ามเนื้อและขนาดร่างกายที่ใหญ่กว่า ซึ่งทำให้ร่างกายต้องการพลังงานมากกว่า
การเรียกหน่วย แคลอรี่ kcal หรือ cal หรือ กิโลแคลอรี่ เพื่อใช้บอกพลังงานในอาหาร ในบริบทของการใช้จริง ให้นิยามได้ว่าเป็นหน่วยความหมายเท่ากัน