23 พฤศจิกายน 2567

แคลอรี่ใน ไข่เจียวหมูสับ มีกี่ Kcal

ไข่เจียวหมูสับ

ไข่เจียวหมูสับ คืออาหารประเภทไข่ที่นำไข่ไก่มาตีให้เข้ากันกับหมูสับ จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำปลา ซีอิ๊วขาวหรือเกลือเพื่อเพิ่มรสชาติ ก่อนนำไปทอดในกระทะที่มีน้ำมันร้อนจนไข่ฟูขึ้นและสุกจนมีสีเหลืองทอง ไข่เจียวหมูสับมีรสชาติที่กลมกล่อม หอมอร่อย และเป็นที่นิยมรับประทานเป็นอาหารหลักหรือตามเมนูข้างเคียงในวงอาหารไทย ไม่ว่าจะเป็นอาหารเช้าควบคู่กับข้าวสวยหรือในเมนูมื้อเที่ยงและเย็น ไข่เจียวหมูสับยังมีความอร่อยที่เป็นเอกลักษณ์จากการใช้หมูสับที่ทำให้มีโครงสร้างที่ละเอียดนุ่มเข้ากันดีกับเนื้อไข่ที่ฟู มีไขมันเช่น น้ำมันที่ใช้ทอดเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้ไข่เจียวมีรสชาติที่หอมอร่อยมากขึ้น นอกจากการทานแบบสไตล์ไทยแล้วยังมีเครื่องปรุงรสมากมายให้เลือกปรับตามความชอบส่วนบุคคล

โดยเฉลี่ยปริมาณ ไข่เจียวหมูสับ 1 ฟอง (120 กรัม) ให้พลังงาน

= 250 KCAL

(หรือคิดเป็น 208 Kcal ต่อปริมาณ 100 กรัม)
ใน 1 ฟองประกอบด้วยไขมัน 20 g.
⋅ พลังงานจากไขมัน = 180 กิโลแคลอรี่
⋅ เฉพาะไขมันคิดเป็น 29% ที่ร่างกายต้องการต่อวัน
หมายเหตุ: ไม่รวมเปลือก
ไข่เจียวหมูสับ

สัดส่วนสารอาหารหลัก

(สัดส่วนของสารอาหารที่ให้พลังงานกับร่างกาย)

แหล่งที่มาของแคลอรี่

(แบ่งสัดส่วนของ Kcal ที่ได้รับจากวัตถุดิบในอาหาร)
ไข่ 40%
หมูสับ 35%
น้ำมัน 25%
ไข่เป็นส่วนหลักในการให้พลังงานหลักในไข่เจียว รองลงมาคือหมูสับและน้ำมันที่ใช้ในการทอด ทั้งนี้ความหอมและอร่อยของไข่เจียวขึ้นอยู่กับการทอดที่เหมาะสมและส่วนผสมที่ลงตัวเพื่อให้ได้รสชาติที่กลมกล่อม

ปริมาณโซเดียมใน ไข่เจียวหมูสับ

เฉลี่ยใน 1 ฟอง
500 - 700
(มิลลิกรัม)
จัดอยู่ในกลุ่มอาหารที่โซเดียม ปานกลาง
ไข่เจียวหมูสับ 1 ฟอง (120 กรัม)
มีโซเดียมประมาณ 500-700 มิลลิกรัม
คิดเป็น 20-30% ของปริมาณโซเดียมที่แนะนำต่อวัน
"ปริมาณโซเดียมเนื่องมาจากการปรุงรสด้วยน้ำปลา ซีอิ๊วขาวหรือเกลือที่ใช้ในการปรุงเพื่อเพิ่มรสชาติซึ่งทำให้ปริมาณโซเดียมเพิ่มขึ้นแต่อยู่ในระดับที่ไม่สูงมาก"
องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำให้บริโภคโซเดียมไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัม ต่อวัน

วิตามิน/เกลือแร่ที่พบได้ใน ไข่เจียวหมูสับ

ในไข่เจียวหมูสับ 1 ฟอง มีสารอาหารประเภทวิตามินและเกลือแร่ที่พบบ่อยดังนี้
วิตามิน/เกลือแร่ ปริมาณใน 1 จาน %RDI ต่อวัน ได้รับจาก
วิตามินเอ 120.0 ไมโครกรัม 15% ไข่
วิตามินบี12 0.5 ไมโครกรัม 25% หมูสับ
ธาตุเหล็ก 1.5 มิลลิกรัม 10% ไข่
แคลเซียม 50.0 มิลลิกรัม 5% ไข่
ฟอสฟอรัส 100.0 มิลลิกรัม 10% ไข่
% RDI ต่อวัน หมายถึง สัดส่วนของสารอาหาร ที่ได้รับจากอาหาร เทียบกับปริมาณที่ร่างกายต้องการในหนึ่งวัน

กินไข่เจียวหมูสับ 1 ฟอง ให้พลังงาน 250 แคลอรี่ ต้องเบิร์นแค่ไหน?

เดินเร็ว

ใช้เวลา 0.8 ชั่วโมง

วิ่งจ๊อกกิ้ง

ใช้เวลา 0.4 ชั่วโมง

ว่ายน้ำ

ใช้เวลา 0.5 ชั่วโมง

ปั่นจักรยาน

ใช้เวลา 0.5 ชั่วโมง

ควรเลือกกิจกรรมที่เหมาะสม และเพิ่มความต่อเนื่องในชีวิตประจำวัน เพื่อให้การเผาผลาญมีประสิทธิภาพมากขึ้น

กินไข่เจียวหมูสับให้ได้พลังงานน้อยที่สุด

สำหรับผู้ที่ต้องการกินเพื่อสุขภาพ ลดน้ำหนัก หรือควบคุมอาหาร
กินที่ร้าน/ซื้อใส่ถุง
  1. เลือกไข่สดคุณภาพดี: เลือกใช้ไข่สดที่มีคุณภาพเพื่อลดโอกาสในการให้สารสกปรกหรือสารปะปนที่ไม่ต้องการในอาหาร
  2. ใช้หมูสับที่ไม่มัน: เลือกหมูสับที่มีไขมันต่ำเพื่อลดปริมาณไขมันที่ไม่จำเป็นและทำให้ไข่เจียวมีความอร่อยโดยไม่ต้องเพิ่มน้ำมันมาก
  3. จำกัดปริมาณน้ำมันในการทอด: ใช้น้ำมันแค่น้อยๆ พอที่จะทำให้ไข่ไม่ติดกะทะก็จะช่วยลดแคลอรี่จากไขมัน
  4. เพิ่มผัก: ใส่ผักต่างๆ เช่น ต้นหอม ผักชี หรือผักสีเขียวอื่นๆ เพื่อเพิ่มไฟเบอร์และวิตามิน ลดความรู้สึกหิวระหว่างวัน
  5. ใช้ซอสดำน้อยๆ: ใช้ซอสปรุงรสที่มีน้ำตาลและเกลือต่ำเพื่อลดการบริโภคโซเดียมและแคลอรี่ที่มากเกินจำเป็น
ทำกินเอง/ปรุงเอง
  1. เลือกใช้กระทะที่ไม่ติด: การใช้กระทะที่ไม่ติดจะลดการใช้ปริมาณน้ำมันในการทอดได้อย่างมาก
  2. ควบคุมอุณหภูมิในการทอด: ใช้ความร้อนต่ำถึงปานกลาง จะทำให้ไข่เจียวไม่อมน้ำมัน
  3. เพิ่มเครื่องเทศแทนเกลือ: ใช้เครื่องเทศและสมุนไพรต่างๆ เพื่อเพิ่มรสชาติแทนการเพิ่มเกลือ
  4. ใช้หมูสับปนผัก: เพิ่มผักที่มีไฟเบอร์สูงเข้าไปเพื่อให้ได้โปรตีนและไฟเบอร์พร้อมลดไขมันจากหมู
  5. ปรับปริมาณไข่: ถ้าใส่ไข่หลายฟอง สามารถปรับปริมาณได้เพื่อลดปริมาณแคลอรี่
ข้อควรระวังและอาการแพ้อาหาร: ไข่เจียวหมูสับอาจมีส่วนประกอบที่ทำให้เกิดอาการแพ้ในบางคน เช่น ไข่ หมู หรือเครื่องปรุงที่ใช้ในการแต่งรส อาการแพ้ของอาหารนี้อาจจะแสดงออกในหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่อาการผื่นแพ้บนผิวหนัง อาการคัน หรือทางเดินหายใจแย่ลง โดยเฉพาะในผู้ที่มีประวัติแพ้อาหารกลุ่มนี้ ควรตรวจสอบส่วนประกอบทุกครั้งก่อนรับประทาน และถ้ามีอาการผิดปกติควรรีบปรึกษาแพทย์อย่างเร่งด่วน
รู้หรือไม่? เลือกใช้หมูสับที่มีไขมันต่ำและควบคุมปริมาณน้ำมันที่ใช้ทอดจะช่วยลดพลังงานจากไขมันได้ในไข่เจียวหมูสับ พร้อมทั้งเพิ่มเครื่องปรุงอาหารที่มีไฟเบอร์สูงซึ่งจะช่วยให้อิ่มท้องเป็นเวลานานลดการทานอาหารเพิ่ม

ค่าความอิ่ม

(Satiety Index)
70
%
ระดับสูง
กินแล้วอยู่ท้องนาน

ดัชนีน้ำตาล

(Glycemic Index)
45
คะแนน
ระดับค่า GI ต่ำ
น้ำตาลในเลือดเพิ่มช้าคงที่

เส้นใยอาหาร

(Dietary Fiber)
20
คะแนน
มีใยอาหารต่ำ
หรือมีใยอาหารเล็กน้อย

ค่าพิวรีน

(Purine Content)
150
mg. ต่อ 100 กรัม
มีพิวรีนปานกลาง
ผู้ป่วยโรคเก๊าท์ต้องระวัง

เป็นโรคเบาหวาน กินไข่เจียวหมูสับได้ไหม?

ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานสามารถบริโภคไข่เจียวหมูสับได้แต่ควรระวังการใช้น้ำปลาหรือซีอิ๊วที่มีโซเดียมหรือซอสที่มีน้ำตาล เพราะจะมีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด การเลือกใช้ส่วนประกอบที่ไม่ทำให้ระดับน้ำตาลสูงเพื่อป้องกันการเสี่ยงต่อการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำตาลในเลือดจะดีที่สุดสำหรับผู้ที่เป็นเบาหวาน

เป็นโรคไต กินไข่เจียวหมูสับได้ไหม?

ผู้ป่วยโรคไตควรระวังการรับประทานไข่เจียวหมูสับเนื่องจากโซเดียมในเครื่องปรุงสามารถเพิ่มภาระให้กับการทำงานของไตได้ นอกจากนี้หมูสับและไข่อาจมีปริมาณโปรตีนที่สูง ควรปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการเพื่อประเมินปริมาณโปรตีนที่เหมาะสมในการบริโภค

เป็นโรคหัวใจ กินไข่เจียวหมูสับได้ไหม?

ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจสามารถรับประทานไข่เจียวหมูสับได้แต่ควรระวังปริมาณโซเดียมจากเกลือและน้ำปลาที่ใช้ในการปรุงไข่เจียว เพื่อควบคุมระดับความดันเลือดที่อาจมีผลต่อสุขภาพหัวใจ หากต้องการบริโภคให้พิจารณาเลือกใช้ส่วนประกอบที่มีไขมันต่ำ

เป็นโรคความดันโลหิตสูง กินไข่เจียวหมูสับได้ไหม?

ผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตสูงยังสามารถบริโภคไข่เจียวหมูสับได้ แต่ควรระวังปริมาณโซเดียมในอาหารโดยเฉพาะจากเครื่องปรุงที่ใส่ลงไปเพื่อหลีกเลี่ยงการเพิ่มความเสี่ยงต่อความดันโลหิต อาจใช้เครื่องเทศเพื่อเพิ่มรสชาติโดยไม่ต้องพึ่งพาเกลือ

เป็นโรคเก๊าท์ กินไข่เจียวหมูสับได้ไหม?

ไข่เจียวหมูสับมีปริมาณพิวรีนที่ถือว่าอยู่ในระดับปานกลาง ผู้ป่วยโรคเก๊าท์ควรระวังการบริโภคเนื่องจากพิวรีนสามารถถูกแปลงเป็นกรดยูริคซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอาการเก๊าท์กำเริบ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการบริโภคบ่อย

เป็นโรคกระเพราะ กินไข่เจียวหมูสับได้ไหม?

ผู้ป่วยโรคกระเพาะสามารถรับประทานไข่เจียวหมูสับได้แต่ควรระวังเนื่องจากการทานอาหารทอดหรือมีไขมันสูง อาจกระตุ้นการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร เพิ่มโอกาสการระคายเคืองในคนที่มีอาการแพ้ง่าย ควรเลือกส่วนผสมและวิธีการทำอาหารที่เหมาะสม

ข้อมูลอาจมีความแตกต่างกันไป ตามรูปแบบการปรุง และวัตถุดิบในการประกอบอาหาร รวมไปถึงปริมาณเฉลี่ยตามขนาดภาชนะในการจัดเตรียม
Thai RDI: ความต้องการพลังงานสำหรับคนไทย ที่มีอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป มีความต้องการพลังงานเฉลี่ยวันละ 2,000 กิโลแคลอรี่
เพศชาย ต้องการพลังงานมากกว่า เพศหญิง เนื่องจากเพศชายมักมีมวลกล้ามเนื้อและขนาดร่างกายที่ใหญ่กว่า ซึ่งทำให้ร่างกายต้องการพลังงานมากกว่า
การเรียกหน่วย แคลอรี่ kcal หรือ cal หรือ กิโลแคลอรี่ เพื่อใช้บอกพลังงานในอาหาร ในบริบทของการใช้จริง ให้นิยามได้ว่าเป็นหน่วยความหมายเท่ากัน