21 พฤศจิกายน 2567

แคลอรี่ใน สเต็กหมู มีกี่ Kcal

สเต็กหมู

สเต็กหมู คือเมนูอาหารประเภทหนึ่งที่ประกอบด้วยเนื้อหมูที่ถูกปรุงให้มีรสชาติและกลิ่นหอม โดยทั่วไป จะปรุงด้วยการหมักแล้วนำไปย่างบนกระทะหรือเตาถ่าน ทำให้ได้เนื้อที่ชุ่มฉ่ำและมีสีทองสวย สเต็กหมูสามารถจัดเสิร์ฟพร้อมกับซอสพริกไทยดำ ซอสเห็ด หรือซอสอื่น ๆ ตามแต่รสชาติที่ต้องการ ควบคู่กับเครื่องเคียง เช่น สลัด ผักลวก หรือเฟรนช์ฟรายส์ เมนูนี้ได้รับความนิยมในหลากหลายประเทศ เนื่องจากวิธีการทำไม่ยุ่งยาก และสามารถปรับแต่งให้เข้ากับวัฒนธรรมอาหารของแต่ละพื้นที่ สเต็กหมูเต็มไปด้วยโปรตีนที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและให้พลังงานที่จำเป็นต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน ทำให้เป็นอีกหนึ่งเมนูที่เหมาะสำหรับมื้ออาหารหลักในวันเวลาเร่งด่วนหรือเวลาที่ต้องการอิ่มอร่อยโดยไม่ใช้เวลามากเกินไปในการเตรียมและปรุงอาหาร

โดยเฉลี่ยปริมาณ สเต็กหมู 1 เซ็ต (200 กรัม) ให้พลังงาน

= 350 KCAL

(หรือคิดเป็น 175 Kcal ต่อปริมาณ 100 กรัม)
ใน 1 เซ็ตประกอบด้วยไขมัน 20 g.
⋅ พลังงานจากไขมัน = 180 กิโลแคลอรี่
⋅ เฉพาะไขมันคิดเป็น 29% ที่ร่างกายต้องการต่อวัน
สเต็กหมู

สัดส่วนสารอาหารหลัก

(สัดส่วนของสารอาหารที่ให้พลังงานกับร่างกาย)

แหล่งที่มาของแคลอรี่

(แบ่งสัดส่วนของ Kcal ที่ได้รับจากวัตถุดิบในอาหาร)
ไขมันหมู 40%
เนื้อหมู 30%
ซอส 15%
ผักเคียง 10%
เครื่องปรุง 5%
สเต็กหมูมีแคลอรี่ที่มาจากแหล่งไขมันหมูมากที่สุด รองลงมาคือเนื้อหมู ซอส และผักเคียง แหล่งพลังงานหลักในสเต็กหมูคือไขมันซึ่งให้พลังงานสูง ทำให้เรารู้สึกอิ่มได้นานขึ้น ส่วนประกอบอื่น ๆ เช่น ซอสและเครื่องปรุงเน้นที่การเพิ่มรสชาติและความหลากหลายในมื้ออาหาร

ปริมาณโซเดียมใน สเต็กหมู

เฉลี่ยใน 1 เซ็ต
500 - 600
(มิลลิกรัม)
จัดอยู่ในกลุ่มอาหารที่โซเดียม ค่อนข้างสูง
สเต็กหมู 1 เซ็ต (200 กรัม)
มีโซเดียมประมาณ 500-600 มิลลิกรัม
คิดเป็น 25-30% ของปริมาณโซเดียมที่แนะนำต่อวัน
"สเต็กหมูมีปริมาณโซเดียมที่สูง ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการใช้ซอสและเครื่องปรุงรสต่าง ๆ ในการเตรียมและปรุงอาหาร ดังนั้นควรควบคุมปริมาณการบริโภคโซเดียมในมื้ออาหารให้เหมาะสม"
องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำให้บริโภคโซเดียมไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัม ต่อวัน

วิตามิน/เกลือแร่ที่พบได้ใน สเต็กหมู

ในสเต็กหมู 1 เซ็ต มีสารอาหารประเภทวิตามินและเกลือแร่ที่พบบ่อยดังนี้
วิตามิน/เกลือแร่ ปริมาณใน 1 จาน %RDI ต่อวัน ได้รับจาก
วิตามินบี 1 0.8 มิลลิกรัม 60% เนื้อหมู
ซิเนียม 20.0 ไมโครกรัม 80% เนื้อหมู
ธาตุเหล็ก 1.5 มิลลิกรัม 10% เนื้อหมู
ฟอสฟอรัส 130.0 มิลลิกรัม 15% ผักเคียง
สังกะสี 2.0 มิลลิกรัม 20% เนื้อหมู
% RDI ต่อวัน หมายถึง สัดส่วนของสารอาหาร ที่ได้รับจากอาหาร เทียบกับปริมาณที่ร่างกายต้องการในหนึ่งวัน

กินสเต็กหมู 1 เซ็ต ให้พลังงาน 350 แคลอรี่ ต้องเบิร์นแค่ไหน?

เดินเร็ว

ใช้เวลา 1.2 ชั่วโมง

วิ่งจ๊อกกิ้ง

ใช้เวลา 0.6 ชั่วโมง

ว่ายน้ำ

ใช้เวลา 0.7 ชั่วโมง

ปั่นจักรยาน

ใช้เวลา 0.7 ชั่วโมง

ควรเลือกกิจกรรมที่เหมาะสม และเพิ่มความต่อเนื่องในชีวิตประจำวัน เพื่อให้การเผาผลาญมีประสิทธิภาพมากขึ้น

กินสเต็กหมูให้ได้พลังงานน้อยที่สุด

สำหรับผู้ที่ต้องการกินเพื่อสุขภาพ ลดน้ำหนัก หรือควบคุมอาหาร
กินที่ร้าน/ซื้อใส่ถุง
  1. เลือกร้านที่มีทางเลือกสุขภาพ เยี่ยมชมร้านสเต็กที่มีตัวเลือกเนื้อหมูที่มีไขมันต่ำ
  2. ขอสเต็กไม่ใส่ซอส โดยเลือกใช้เกลือพริกไทยหรือซอสที่มีแคลอรี่ต่ำ
  3. เลือกผักเคียงสด แทนมันฝรั่งทอดเพื่อประหยัดแคลอรี่และเพิ่มไฟเบอร์
  4. ขอปรุงแบบย่าง แทนน้ำมันเพื่อให้ได้แคลอรี่ที่ต่ำกว่าการทอดในน้ำมัน
  5. ขอน้ำซุปหรือสลัดด้านเคียง ซึ่งมีปริมาณแคลอรี่ต่ำเมื่อเทียบกับเครื่องเคียงอื่น
ทำกินเอง/ปรุงเอง
  1. เลือกเนื้อหมูสันใน ใช้ส่วนที่มีไขมันต่ำเช่นสันในหมูซึ่งช่วยลดปริมาณแคลอรี่
  2. หมักด้วยสมุนไพร ใช้เครื่องปรุงที่ไม่มีน้ำตาลสูงและลดโซเดียมในสูตรหมัก
  3. ย่างบนกระทะไม่ติด เลือกวิธีการย่างแทนการทอดในน้ำมันเพื่อลดไขมัน
  4. เตรียมซอสของตนเอง ด้วยการควบคุมน้ำตาลและเกลือ
  5. เสิร์ฟพร้อมผักสด เช่นสลัดหรือผักย่างที่ไม่ใส่น้ำมันเพิ่ม
ข้อควรระวังและอาการแพ้อาหาร: สเต็กหมูอาจมีส่วนผสมที่ทำให้เกิดอาการแพ้ในบางคน เช่น เนื้อหมูเอง เครื่องปรุงซอส หรือวัตถุดิบอื่นที่ประกอบอยู่ในเมนู ผู้ที่แพ้ส่วนประกอบที่ทำจากหมูหรือสารที่พบในโปรตีนหมูอาจเกิดอาการแพ้ได้ คนที่มีปฎิกิริยาต่อซอสหมักที่มีส่วนผสมของถั่วเหลืองหรือสารกันบูดควรระมัดระวัง ทั้งนี้คนที่แพ้อาหารควรตรวจสอบข้อมูลส่วนผสมจากร้านอาหารหรือปรึกษาแพทย์เพื่อแนวทางในการป้องกัน สำหรับผู้ที่แพ้อาหารบางประเภท การเลือกรับประทานสเต็กหมูอาจต้องพิจารณาจากความเสี่ยงในการเกิดปฎิกิริยาต่อร่างกาย
รู้หรือไม่? การลดแคลอรี่จากสเต็กหมูสามารถทำได้ด้วยการลดปริมาณซอสและการใช้น้ำมันที่น้อยลง นอกจากนี้ยังสามารถเลือกเครื่องเคียงที่ให้พลังงานต่ำเช่นสลัดผักสดและลดการบริโภคน้ำมันที่ใช้ในกระบวนการปรุง รวมถึงเลือกประเภทเนื้อหมูที่มีไขมันต่ำและหลีกเลี่ยงการหมักเนื้อในซอสที่มีน้ำตาลหรือโซเดียมสูง

ค่าความอิ่ม

(Satiety Index)
75
%
ระดับสูง
กินแล้วอยู่ท้องนาน

ดัชนีน้ำตาล

(Glycemic Index)
50
คะแนน
ระดับค่า GI ปานกลาง
น้ำตาลในเลือดเพิ่มปานกลาง

เส้นใยอาหาร

(Dietary Fiber)
45
คะแนน
มีใยอาหารปานกลาง
หรือมีใยอาหารพอสมควร

ค่าพิวรีน

(Purine Content)
50
mg. ต่อ 100 กรัม
มีพิวรีนปานกลาง
ผู้ป่วยโรคเก๊าท์ต้องระวัง

เป็นโรคเบาหวาน กินสเต็กหมูได้ไหม?

สเต็กหมูมีปริมาณคาร์โบไฮเดรตต่ำ แต่ควรระวังในเรื่องของซอสที่ใช้และการปรุงที่มีน้ำตาลสูง ทั้งนี้ผู้ป่วยโรคเบาหวานสามารถบริโภคได้แต่ควรควบคุมปริมาณและเลือกรับประทานพร้อมกับอาหารอื่น ๆ ที่มีไฟเบอร์สูงเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

เป็นโรคไต กินสเต็กหมูได้ไหม?

สเต็กหมูมีโปรตีนสูงซึ่งอาจไม่เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคไตที่ต้องจำกัดการบริโภคโปรตีน อย่างไรก็ตามการบริโภคในปริมาณที่เหมาะสมและการเลือกเนื้อหมูที่มีไขมันต่ำสามารถทำได้ แต่ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับปริมาณที่เหมาะสมเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหากับการทำงานของไต

เป็นโรคหัวใจ กินสเต็กหมูได้ไหม?

สเต็กหมูมีไขมันอิ่มตัวสูง ซึ่งสำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจควรควบคุมการบริโภคไขมันชนิดนี้เพื่อหลีกเลี่ยงการเพิ่มความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจ ควรเลือกเนื้อหมูที่มีไขมันต่ำนำไปย่างแทนการทอด และควบคุมการบริโภคเครื่องปรุงที่มีโซเดียมสูง

เป็นโรคความดันโลหิตสูง กินสเต็กหมูได้ไหม?

สำหรับผู้ที่มีความดันโลหิตสูง สเต็กหมูอาจมีผลกระทบหากบริโภคในรูปแบบที่มีโซเดียมหรือซอสเค็ม ควรเลือกบริโภคแบบง่าย ๆ และลดปริมาณเครื่องปรุง เพื่อควบคุมระดับโซเดียมที่อาจส่งผลกระทบต่อความดันโลหิต

เป็นโรคเก๊าท์ กินสเต็กหมูได้ไหม?

ผู้ป่วยโรคเก๊าท์ควรระวังการบริโภคสเต็กหมูเนื่องจากมีพิวรีนในปริมาณไม่มากเกินไป แต่ควรควบคุมการบริโภคในปริมาณที่จำกัดเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอาการกำเริบ และปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับโภชนาการที่เหมาะสมในการดูลักษณะของอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง

เป็นโรคกระเพราะ กินสเต็กหมูได้ไหม?

บุคคลที่มีปัญหากระเพาะอาหารควรระวังเมื่อบริโภคสเต็กหมู เนื่องจากความหนักของเนื้อหมูอาจทำให้เกิดการระคายเคืองหรืออาการจุกในท้อง ควรบริโภคในปริมาณที่เหมาะสมและหลีกเลี่ยงซอสที่มีส่วนประกอบที่อาจก่อให้เกิดอาการระคายเคือง

ข้อมูลอาจมีความแตกต่างกันไป ตามรูปแบบการปรุง และวัตถุดิบในการประกอบอาหาร รวมไปถึงปริมาณเฉลี่ยตามขนาดภาชนะในการจัดเตรียม
Thai RDI: ความต้องการพลังงานสำหรับคนไทย ที่มีอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป มีความต้องการพลังงานเฉลี่ยวันละ 2,000 กิโลแคลอรี่
เพศชาย ต้องการพลังงานมากกว่า เพศหญิง เนื่องจากเพศชายมักมีมวลกล้ามเนื้อและขนาดร่างกายที่ใหญ่กว่า ซึ่งทำให้ร่างกายต้องการพลังงานมากกว่า
การเรียกหน่วย แคลอรี่ kcal หรือ cal หรือ กิโลแคลอรี่ เพื่อใช้บอกพลังงานในอาหาร ในบริบทของการใช้จริง ให้นิยามได้ว่าเป็นหน่วยความหมายเท่ากัน