23 พฤศจิกายน 2567

แคลอรี่ใน แกงฟักทอง มีกี่ Kcal

แกงฟักทอง

แกงฟักทอง คืออาหารไทยที่ทำจากฟักทองที่สุกแล้วผสมกับน้ำแกงและเครื่องปรุงรสต่าง ๆ มีรสชาติหวานเค็มและเผ็ดเล็กน้อย ส่วนผสมหลักประกอบด้วยฟักทอง เนื้อสัตว์หรือเต้าหู้ กะทิ และเครื่องแกงที่ทำจากเครื่องเทศและสมุนไพร อาทิ กระเทียม หอมแดง และพริก มีสีสันสดใสและกลิ่นหอมขจัดความหิวได้ดี อุดมไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ เนื่องจากฟักทองมีเบต้าแคโรทีน วิตามินเอ และไฟเบอร์ที่ช่วยบำรุงสายตา เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และส่งเสริมการย่อยอาหาร การทำแกงฟักทองมีหลายวิธีและสามารถปรับเปลี่ยนส่วนผสมได้ตามความชอบ ทำให้เป็นอาหารที่ทานได้บ่อย ๆ และเหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว

โดยเฉลี่ยปริมาณ แกงฟักทอง 1 ถ้วย (250 กรัม) ให้พลังงาน

= 200 KCAL

(หรือคิดเป็น 80 Kcal ต่อปริมาณ 100 กรัม)
ใน 1 ถ้วยประกอบด้วยไขมัน 10 g.
⋅ พลังงานจากไขมัน = 90 กิโลแคลอรี่
⋅ เฉพาะไขมันคิดเป็น 14% ที่ร่างกายต้องการต่อวัน
แกงฟักทอง

สัดส่วนสารอาหารหลัก

(สัดส่วนของสารอาหารที่ให้พลังงานกับร่างกาย)

แหล่งที่มาของแคลอรี่

(แบ่งสัดส่วนของ Kcal ที่ได้รับจากวัตถุดิบในอาหาร)
กะทิ 30%
ฟักทอง 25%
เนื้อสัตว์ 20%
น้ำตาล 15%
เครื่องแกง 10%
แกงฟักทองมีแคลอรี่มาจากส่วนประกอบหลักคือกะทิ ซึ่งเป็นแหล่งแคลอรี่มากที่สุด รองลงมาคือฟักทองและเนื้อสัตว์ที่ใช้ในการปรุง นอกจากนี้ยังมีส่วนของน้ำตาลที่ให้ความหวานและเพิ่มแคลอรีให้กับเมนูนี้ เพื่อให้ได้รสชาติที่กลมกล่อม เครื่องแกงและสมุนไพรที่ใช้ก็มีส่วนส่งเสริมรสชาติและกลิ่นหอม ทำให้แกงฟักทองสามารถทานได้อร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการ

ปริมาณโซเดียมใน แกงฟักทอง

เฉลี่ยใน 1 ถ้วย
300 - 400
(มิลลิกรัม)
จัดอยู่ในกลุ่มอาหารที่โซเดียม ปานกลาง
แกงฟักทอง 1 ถ้วย (250 กรัม)
มีโซเดียมประมาณ 300-400 มิลลิกรัม
คิดเป็น 15-20% ของปริมาณโซเดียมที่แนะนำต่อวัน
"ปริมาณโซเดียมในแกงฟักทองขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำปลาและเครื่องปรุงรสที่ใช้ในการทำ ซึ่งเมื่อนับรวมกับเครื่องแกงและส่วนผสมอื่น ๆ ทำให้ปริมาณโซเดียมอยู่ในระดับกลางที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการบริโภคเกลือมากในแต่ละมื้อ"
องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำให้บริโภคโซเดียมไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัม ต่อวัน

วิตามิน/เกลือแร่ที่พบได้ใน แกงฟักทอง

ในแกงฟักทอง 1 ถ้วย มีสารอาหารประเภทวิตามินและเกลือแร่ที่พบบ่อยดังนี้
วิตามิน/เกลือแร่ ปริมาณใน 1 จาน %RDI ต่อวัน ได้รับจาก
วิตามินเอ 500.0 ไมโครกรัม 55% ฟักทอง
วิตามินซี 10.0 มิลลิกรัม 11% ฟักทอง
แคลเซียม 40.0 มิลลิกรัม 4% กะทิ
โพแทสเซียม 150.0 มิลลิกรัม 3% เครื่องแกง
ฟอสฟอรัส 30.0 มิลลิกรัม 3% เนื้อสัตว์
% RDI ต่อวัน หมายถึง สัดส่วนของสารอาหาร ที่ได้รับจากอาหาร เทียบกับปริมาณที่ร่างกายต้องการในหนึ่งวัน

กินแกงฟักทอง 1 ถ้วย ให้พลังงาน 200 แคลอรี่ ต้องเบิร์นแค่ไหน?

เดินเร็ว

ใช้เวลา 0.7 ชั่วโมง

วิ่งจ๊อกกิ้ง

ใช้เวลา 0.3 ชั่วโมง

ว่ายน้ำ

ใช้เวลา 0.4 ชั่วโมง

ปั่นจักรยาน

ใช้เวลา 0.4 ชั่วโมง

ควรเลือกกิจกรรมที่เหมาะสม และเพิ่มความต่อเนื่องในชีวิตประจำวัน เพื่อให้การเผาผลาญมีประสิทธิภาพมากขึ้น

กินแกงฟักทองให้ได้พลังงานน้อยที่สุด

สำหรับผู้ที่ต้องการกินเพื่อสุขภาพ ลดน้ำหนัก หรือควบคุมอาหาร
กินที่ร้าน/ซื้อใส่ถุง
  1. เลือกฟักทองสด: ฟักทองสดจะมีคุณค่าทางโภชนาการสูงกว่าและไม่มีกล่นเหม็นหืน จึงควรเลือกฟักทองที่สดสำหรับการทำอาหาร
  2. ลดปริมาณกะทิ: เลือกใช้กะทิที่มีไขมันต่ำหรือลอยมันออก ก่อนใช้กะทิในการทำแกงฟักทอง
  3. หลีกเลี่ยงการใช้น้ำตาล: หากต้องการเพิ่มความหวาน ควรใช้สารให้ความหวานตามธรรมชาติ เช่น น้ำตาลหญ้าหวานหรือน้ำผึ้ง
  4. เพิ่มผักใบเขียว: การเพิ่มผักใบเขียวทำให้แกงฟักทองมีไฟเบอร์สูง ช่วยในการลดแคลอรี่และดีต่อสุขภาพ
  5. ควบคุมการใช้เครื่องปรุงรส: การลดปริมาณน้ำปลาและเครื่องปรุงรสจะช่วยลดแคลอรี่และปริมาณโซเดียมลงได้
ทำกินเอง/ปรุงเอง
  1. เลือกฟักทองเกรดดี: ใช้ฟักทองที่สดใหม่ ไม่มีความเสียหายหรือความชื้น เพื่อให้ได้รสชาติและคุณค่าทางอาหารที่ดี
  2. ใช้กะทิลอย: แยกกะทิที่ลอยมันออก เพื่อลดไขมันในแกงฟักทอง
  3. ลดน้ำตาลและเกลือ: ใช้เกลือน้อยที่สุดและแทนที่ด้วยเครื่องเทศอื่น ๆ เพื่อเพิ่มรสชาติแต่ลดแคลอรี่
  4. เพิ่มเครื่องเทศที่ดีต่อสุขภาพ: เพิ่มเครื่องเทศ เช่น ใบมะกรูดและขมิ้น ที่ช่วยเพิ่มรสชาติและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ
  5. เพิ่มผักเพิ่มใยอาหาร: เพิ่มผักอื่นๆ เช่น กะหล่ำปลี และถั่วฝักยาว ที่ช่วยเพิ่มไฟเบอร์และคุณค่าทางอาหาร
ข้อควรระวังและอาการแพ้อาหาร: แกงฟักทองอาจมีส่วนประกอบที่เป็นอันตรายต่อผู้ที่แพ้อาหารบางประเภท เช่น การใส่กะทิที่สกัดจากมะพร้าวซึ่งผู้ที่แพ้สามารถมีปฏิกิริยาได้ นอกจากนี้ยังมีเครื่องปรุงต่าง ๆ ที่อาจมีสารก่อภูมิแพ้ เช่น น้ำปลา หรือเครื่องแกงที่ทำจากส่วนผสมที่หลากหลาย ผู้ที่มีความอ่อนไหวควรตรวจสอบส่วนผสมทุกครั้งก่อนบริโภค หากมีการแพ้อาหารประเภทใด ควรหลีกเลี่ยงหรือปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจสอบว่าสามารถทานได้หรือไม่
รู้หรือไม่? การลดปริมาณแคลอรี่จากการทานแกงฟักทองสามารถทำได้ด้วยวิธีการเลือกวัตถุดิบที่เหมาะสม โดยให้เน้นใช้ฟักทองและธัญพืชที่ช่วยเพิ่มปริมาณใยอาหาร หลีกเลี่ยงการใส่น้ำมันและกะทิในปริมาณเยอะหรือหากต้องการควรลดการใช้กะทิเต็มมัน เปลี่ยนมาใช้กะทิลอยที่มีไขมันต่ำแทน และควบคุมปริมาณน้ำตาลและน้ำปลาที่ใช้ในการปรุงรสไว้อย่างเหมาะสม เพื่อไม่ให้เพิ่มแคลอรี่มากจนเกินไป การเพิ่มผักใบเขียวและเครื่องเทศต่าง ๆ จะช่วยเพิ่มรสชาติและส่งเสริมสุขภาพ ทำให้ได้แกงฟักทองที่แคลอรีต่ำและดีต่อสุขภาพ

ค่าความอิ่ม

(Satiety Index)
70
%
ระดับปานกลาง
กินแล้วอยู่ท้องปานกลาง

ดัชนีน้ำตาล

(Glycemic Index)
60
คะแนน
ระดับค่า GI ปานกลาง
น้ำตาลในเลือดเพิ่มปานกลาง

เส้นใยอาหาร

(Dietary Fiber)
75
คะแนน
มีใยอาหารสูง
ช่วยควบคุมการย่อยได้ดี

ค่าพิวรีน

(Purine Content)
35
mg. ต่อ 100 กรัม
มีพิวรีนต่ำ
สำหรับควบคุมกรดยูริก

เป็นโรคเบาหวาน กินแกงฟักทองได้ไหม?

แกงฟักทองมีฟักทองเป็นส่วนประกอบหลัก ซึ่งมีค่าสูตรน้ำตาลที่ไม่สูงมาก แต่เนื่องจากมีส่วนประกอบอื่นๆ เช่น กะทิและน้ำตาลที่ผสมในแกง ผู้ป่วยเบาหวานจึงควรระวังการบริโภค เพื่อหลีกเลี่ยงการเพิ่มน้ำตาลในเลือด ควรจัดสัดส่วนการบริโภคอย่างเหมาะสมและรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ

เป็นโรคไต กินแกงฟักทองได้ไหม?

ผู้ป่วยโรคไตควรระวังการบริโภคแกงฟักทองเนื่องจากมีโซเดียมจากน้ำปลาและเครื่องปรุงรสที่ใช้ในแกง ซึ่งอาจไม่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมโซเดียมในอาหาร ควรปรับลดปริมาณเครื่องปรุงรสและเลือกปรุงเองเพื่อตรวจสอบส่วนผสม

เป็นโรคหัวใจ กินแกงฟักทองได้ไหม?

แกงฟักทองมีปริมาณไขมันและโซเดียมในระดับปานกลาง ทำให้เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจที่ต้องควบคุมไขมันและโซเดียม ถึงแม้ว่าควรระวังการใช้เครื่องปรุงรสในปริมาณมาก แต่สามารถปรับเปลี่ยนส่วนผสมและวิธีปรุงให้เหมาะสมกับสุขภาพได้

เป็นโรคความดันโลหิตสูง กินแกงฟักทองได้ไหม?

ผู้ที่มีปัญหาโรคความดันโลหิตสูงควรระวังเรื่องปริมาณโซเดียมที่สูงจากน้ำปลาและส่วนผสมในแกง ควรปรับลดเกลือและน้ำปลาที่ใช้ ลดเครื่องปรุงรสหวานเค็มเพื่อลดปัจจัยที่อาจก่อให้เกิดความดันโลหิตสูง

เป็นโรคเก๊าท์ กินแกงฟักทองได้ไหม?

แกงฟักทองมีระดับพิวรีนที่ต่ำ เหมาะสำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคเก๊าท์ อย่างไรก็ตามควรบริโภคในปริมาณที่เหมาะสมและหลีกเลี่ยงการใส่เครื่องปรุงที่มีพิวรีนสูงเพิ่มเติม เพื่อป้องกันการสะสมของกรดยูริกในร่างกาย

เป็นโรคกระเพราะ กินแกงฟักทองได้ไหม?

แกงฟักทองสามารถรับประทานได้สำหรับผู้ป่วยโรคกระเพาะ โดยเฉพาะเมื่อปรุงด้วยวัตถุดิบที่สดใหม่และหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องเทศที่เผ็ดร้อนจนเกินไป ควรจัดสรรปริมาณในการบริโภคให้พอเหมาะและคอยสังเกตอาการหลังจากรับประทาน

ข้อมูลอาจมีความแตกต่างกันไป ตามรูปแบบการปรุง และวัตถุดิบในการประกอบอาหาร รวมไปถึงปริมาณเฉลี่ยตามขนาดภาชนะในการจัดเตรียม
Thai RDI: ความต้องการพลังงานสำหรับคนไทย ที่มีอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป มีความต้องการพลังงานเฉลี่ยวันละ 2,000 กิโลแคลอรี่
เพศชาย ต้องการพลังงานมากกว่า เพศหญิง เนื่องจากเพศชายมักมีมวลกล้ามเนื้อและขนาดร่างกายที่ใหญ่กว่า ซึ่งทำให้ร่างกายต้องการพลังงานมากกว่า
การเรียกหน่วย แคลอรี่ kcal หรือ cal หรือ กิโลแคลอรี่ เพื่อใช้บอกพลังงานในอาหาร ในบริบทของการใช้จริง ให้นิยามได้ว่าเป็นหน่วยความหมายเท่ากัน