23 พฤศจิกายน 2567

แคลอรี่ใน สปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศ มีกี่ Kcal

สปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศ

สปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศ คืออาหารจานหนึ่งที่มีซากการใช้เส้นสปาเก็ตตี้ที่มีกำเนิดจากอีตาลี มาใช้และปรุงรสด้วยซอสมะเขือเทศหรือน้ำซุปที่ปรุงจากมะเขือเทศขณะนี้เป็นอาหารที่ได้รับความนิยมทั้งในประเทศและนอกประเทศ น้ำซอสมะเขือเทศที่ใช้ในจานนี้มักจะมีรสชาติอร่อยและหวานนุ่ม เป็นส่วนผสมที่เต็มไปด้วยมะเขือเทศสด ๆ ที่ให้สีสันสวยงาม และมีรสชาติที่ให้ความรู้สึกสดชื่น เส้นสปาเก็ตตี้มีความเหนียวนุ่มและมีความยาวที่โดดเด่น ทำให้ควรรับประทานด้วยคล่องแคล่ว ซึ่งการจัดเตรียมในแต่ละจานแต่ละครั้งอาจจะเพิ่มส่วนผสมพิเศษ เช่น เนื้อสัตว์ต่าง ๆ อย่างปลาทู หรือเนื้อหมู เพื่อเพิ่มรสชาติ นอกจากนี้อาจจะโรยตามด้วยชีสเพิ่มความเข้มข้น การเตรียมสปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศสามารถทำได้อย่างง่ายดายและสะดวกตามความชอบ

โดยเฉลี่ยปริมาณ สปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศ 1 จาน (200 กรัม) ให้พลังงาน

= 250 KCAL

(หรือคิดเป็น 125 Kcal ต่อปริมาณ 100 กรัม)
ใน 1 จานประกอบด้วยไขมัน 7 g.
⋅ พลังงานจากไขมัน = 63 กิโลแคลอรี่
⋅ เฉพาะไขมันคิดเป็น 10% ที่ร่างกายต้องการต่อวัน
สปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศ

สัดส่วนสารอาหารหลัก

(สัดส่วนของสารอาหารที่ให้พลังงานกับร่างกาย)

แหล่งที่มาของแคลอรี่

(แบ่งสัดส่วนของ Kcal ที่ได้รับจากวัตถุดิบในอาหาร)
เส้นสปาเก็ตตี้ 50%
ซอสมะเขือเทศ 20%
น้ำมัน 10%
ชีส 8%
เนื้อสัตว์ 7%
เครื่องปรุงรส 5%
โดยรวมแล้ว สปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศมีแคลอรี่หลักๆ มาจากเส้นสปาเก็ตตี้และซอสมะเขือเทศ โดยเส้นสปาเก็ตตี้มีส่วนแคลอรี่ที่สูงที่สุด คิดเป็นครึ่งหนึ่งจากทั้งหมด รองลงมาคือซอสมะเขือเทศ และส่วนประกอบอื่นๆ เช่น น้ำมัน, ชีส และเครื่องปรุงรสมีแคลอรี่ที่น้อยลงตามลำดับ

ปริมาณโซเดียมใน สปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศ

เฉลี่ยใน 1 จาน
400 - 600
(มิลลิกรัม)
จัดอยู่ในกลุ่มอาหารที่โซเดียม ค่อนข้างสูง
สปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศ 1 จาน (200 กรัม)
มีโซเดียมประมาณ 400-600 มิลลิกรัม
คิดเป็น 20-25% ของปริมาณโซเดียมที่แนะนำต่อวัน
"สปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศมีโซเดียมส่วนหนึ่งมาจากซอสมะเขือเทศและเครื่องปรุงรส ซึ่งซอสทอสมะเขือเทศประเภทเค็มจะเป็นที่นิยมทำให้โซเดียมอยู่ในระดับค่อนข้างสูง"
องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำให้บริโภคโซเดียมไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัม ต่อวัน

วิตามิน/เกลือแร่ที่พบได้ใน สปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศ

ในสปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศ 1 จาน มีสารอาหารประเภทวิตามินและเกลือแร่ที่พบบ่อยดังนี้
วิตามิน/เกลือแร่ ปริมาณใน 1 จาน %RDI ต่อวัน ได้รับจาก
วิตามินซี 24.0 มิลลิกรัม 30% มะเขือเทศ
ไลโคปีน 3.5 มิลลิกรัม 45% มะเขือเทศ
วิตามินเอ 1.2 ไมโครกรัม 15% มะเขือเทศ
โพแทสเซียม 160.0 มิลลิกรัม 5% มะเขือเทศ
เหล็ก 0.5 มิลลิกรัม 3% เนื้อสัตว์
% RDI ต่อวัน หมายถึง สัดส่วนของสารอาหาร ที่ได้รับจากอาหาร เทียบกับปริมาณที่ร่างกายต้องการในหนึ่งวัน

กินสปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศ 1 จาน ให้พลังงาน 250 แคลอรี่ ต้องเบิร์นแค่ไหน?

เดินเร็ว

ใช้เวลา 0.8 ชั่วโมง

วิ่งจ๊อกกิ้ง

ใช้เวลา 0.4 ชั่วโมง

ว่ายน้ำ

ใช้เวลา 0.5 ชั่วโมง

ปั่นจักรยาน

ใช้เวลา 0.5 ชั่วโมง

ควรเลือกกิจกรรมที่เหมาะสม และเพิ่มความต่อเนื่องในชีวิตประจำวัน เพื่อให้การเผาผลาญมีประสิทธิภาพมากขึ้น

กินสปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศให้ได้พลังงานน้อยที่สุด

สำหรับผู้ที่ต้องการกินเพื่อสุขภาพ ลดน้ำหนัก หรือควบคุมอาหาร
กินที่ร้าน/ซื้อใส่ถุง
  1. เลือกอาหารที่มีซอสสด เลือกร้านที่ทำซอสสดใหม่ไม่ใช้ซอสสำเร็จรูปที่มีการเติมน้ำตาลและโซเดียมในปริมาณสูง
  2. สั่งเส้นเต็มเมล็ด เลือกสปาเก็ตตี้ที่ทำจากเมล็ดพืชเต็มเมล็ดที่มีใยอาหารสูง และค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ
  3. ขอซอสแยก ขอให้ร้านเสริฟซอสแยกจากสปาเก็ตตี้เพื่อควบคุมปริมาณซอสที่รับประทาน และลดแคลอรี่บางส่วน
  4. เพิ่มเมนูผัก สั่งสลัดหรือผักลวกเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ และลดปริมาณแคลอรี่จากอาหารประเภทเส้น
  5. ลดเครื่องปรุงรส ขอลดปริมาณการใช้น้ำมัน เครื่องปรุง และชีสในจานเพื่อหลีกเลี่ยงแคลอรี่จากไขมันและโซเดียมเพิ่มเติม
ทำกินเอง/ปรุงเอง
  1. เลือกเส้นที่ดีต่อสุขภาพ ใช้เส้นสปาเก็ตตี้ที่ทำจากธัญพืช เช่น ข้าวกล้อง หรือควินัวเพื่อลดแคลอรี่จากคาร์โบไฮเดรต
  2. ทำซอสสด ทำซอสมะเขือเทศจากมะเขือเทศสดโดยไม่เติมน้ำตาล และเกลือมากเกินไปเพื่อรักษาสารอาหารและรสชาติแท้ของมะเขือเทศ
  3. ไม่ใช้เนยหรือครีม เลี่ยงการใช้เนยหรือครีมในซอส และเลือกใช้น้ำมันมะกอกในปริมาณน้อยที่สุด
  4. เพิ่มผักในสูตร ใส่ผักที่หลากหลาย เช่น บร็อคโคลี่ และแครอท ในซอสเพื่อเพิ่มใยอาหาร และวิตามิน
  5. จำกัดปริมาณชีส ใช้ชีสในปริมาณน้อยและเลือกชีสที่มีไขมันต่ำเพื่อเพิ่มรสชาติแบบธรรมชาติและลดแคลอรี่
ข้อควรระวังและอาการแพ้อาหาร: การรับประทานสปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศอาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการแพ้อาหารบางประเภท เนื่องจากส่วนผสมหลักคือเส้นสปาเก็ตตี้และซอสมะเขือเทศที่อาจมีการเติมสารปรุงรสที่ทำให้เกิดอาการแพ้ เช่น เนื้อสัตว์ กระเทียม หรือหัวหอมแดง นอกจากนี้ยังมีซอสมะเขือเทศบางชนิดที่อาจมีการเติมสารรักษาความสดหรือสารกันบูด ผู้ที่มีอาการแพ้ต่อวัตถุดิบใดๆ ควรตรวจสอบฉลากผลิตภัณฑ์อย่างละเอียดก่อนรับประทาน รวมถึงควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการเพื่อความปลอดภัย
รู้หรือไม่? เพื่อให้สปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศมีแคลอรี่น้อยที่สุด ควรเลือกใช้เส้นสปาเก็ตตี้ที่ทำจากธัญพืชที่คงค่าทางอาหารสูง เลือกใช้ซอสมะเขือเทศที่ทำจากมะเขือเทศสดเท่านั้น เพิ่มปริมาณผักสลัดและลดเนื้อสัตว์ที่มีไขมันสูง ใช้น้ำมันมะกอกหรือน้ำมันพืชที่ดีต่อสุขภาพในปริมาณน้อยที่สุดที่เป็นไปได้ และควรลดปริมาณชีสที่ใช้ในอาหาร

ค่าความอิ่ม

(Satiety Index)
70
%
ระดับปานกลาง
กินแล้วอยู่ท้องปานกลาง

ดัชนีน้ำตาล

(Glycemic Index)
60
คะแนน
ระดับค่า GI ปานกลาง
น้ำตาลในเลือดเพิ่มปานกลาง

เส้นใยอาหาร

(Dietary Fiber)
40
คะแนน
มีใยอาหารปานกลาง
หรือมีใยอาหารพอสมควร

ค่าพิวรีน

(Purine Content)
50
mg. ต่อ 100 กรัม
มีพิวรีนต่ำ
สำหรับควบคุมกรดยูริก

เป็นโรคเบาหวาน กินสปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศได้ไหม?

สปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศมีค่าดัชนีน้ำตาลปานกลาง ซึ่งอาจไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคเบาหวานเนื่องจากสามารถทำให้น้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นได้ คำแนะนำที่ควรสังเกตคือการควบคุมปริมาณการบริโภคเส้นสปาเก็ตตี้และชั่งน้ำหนักปริมาณซอสที่ใช้อย่างระมัดระวัง คอยเฝ้าระวังปริมาณโซเดียมและน้ำตาลในสูตรที่เลือกใช้ ควรตรวจระดับน้ำตาลในเลือดหลังการรับประทานและควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือแพทย์เพื่อแนวทางที่เหมาะสมที่สุด

เป็นโรคไต กินสปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศได้ไหม?

ผู้ที่เป็นโรคไตควรระมัดระวังในการบริโภคสปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศเนื่องจากอาหารนี้มักมีโซเดียมและโปแทสเซียมสูง ซึ่งทั้งสองสารนี้สามารถส่งผลกระทบต่อการทำงานของไตในระยะยาว ผู้ที่มีภาวะไตควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญโภชนาการก่อนการบริโภค และเลือกใช้ซอสที่ปราศจากสารที่มีผลกระทบต่อไต เช่น เลือกมะเขือเทศสดและเครื่องปรุงที่มีระดับโซเดียมต่ำ

เป็นโรคหัวใจ กินสปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศได้ไหม?

สปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศสามารถมีปริมาณโซเดียมและไขมันที่อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจ โดยเฉพาะในกรณีที่ใช้น้ำมันหรือชีสในปริมาณมาก ผู้ป่วยควรเลือกใช้ซอสมะเขือเทศที่มีโซเดียมน้อย และจำกัดปริมาณการใช้น้ำมันและชีสในจาน เลือกเส้นพาสต้าแบบธัญพืชเพื่อส่งเสริมสุขภาพหัวใจให้ดีขึ้นและลดความเสี่ยงจากการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง

เป็นโรคความดันโลหิตสูง กินสปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศได้ไหม?

ผู้ที่มีโรคความดันโลหิตสูงควรระวังโซเดียมที่อยู่ในสปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศและซอสที่บางครั้งมีโซเดียมสูง ซึ่งสามารถส่งผลกระทบต่อระดับความดันโลหิต ควรใช้ซอสที่ทำเองเพื่อลดปริมาณโซเดียม หรือเลือกซอสที่มีโซเดียมต่ำ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญในการควบคุมโภชนาการเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงของโรคความดันโลหิต

เป็นโรคเก๊าท์ กินสปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศได้ไหม?

ไขมันและน้ำตาลที่พบในซอสมะเขือเทศพร้อมทั้งเนื้อสัตว์ที่ใช้ประกอบในสปาเก็ตตี้อาจทำให้เกิดการสะสมของสารพิวรีนที่ส่งผลกระทบต่อผู้ที่มีปัญหาโรคเก๊าท์ ควรเลือกใช้อาหารที่ลดปริมาณพิวรีนอย่างระบัดระวัง กำหนดปริมาณการบริโภคและติดตามอาการเพื่อปรับเปลี่ยนอาหารตามคำแนะนำของแพทย์

เป็นโรคกระเพราะ กินสปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศได้ไหม?

สปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศอาจมีส่วนประกอบที่กระตุ้นให้เกิดอาการกระเพาะอาหารอักเสบ เช่น มะเขือเทศที่มีความเป็นกรดสูงและการใช้น้ำมันพืชในปริมาณมาก ควรทานในปริมาณที่เหมาะสมและเลือกซอสที่ไม่ใส่เครื่องเทศหรือเครื่องปรุงที่มีผลกระทบต่อกระเพาะอาหารและควรมีการปรับเปลี่ยนตามคำแนะนำของแพทย์

ข้อมูลอาจมีความแตกต่างกันไป ตามรูปแบบการปรุง และวัตถุดิบในการประกอบอาหาร รวมไปถึงปริมาณเฉลี่ยตามขนาดภาชนะในการจัดเตรียม
Thai RDI: ความต้องการพลังงานสำหรับคนไทย ที่มีอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป มีความต้องการพลังงานเฉลี่ยวันละ 2,000 กิโลแคลอรี่
เพศชาย ต้องการพลังงานมากกว่า เพศหญิง เนื่องจากเพศชายมักมีมวลกล้ามเนื้อและขนาดร่างกายที่ใหญ่กว่า ซึ่งทำให้ร่างกายต้องการพลังงานมากกว่า
การเรียกหน่วย แคลอรี่ kcal หรือ cal หรือ กิโลแคลอรี่ เพื่อใช้บอกพลังงานในอาหาร ในบริบทของการใช้จริง ให้นิยามได้ว่าเป็นหน่วยความหมายเท่ากัน