21 พฤศจิกายน 2567

แคลอรี่ใน ต้มยำกุ้ง มีกี่ Kcal

ต้มยำกุ้ง

ต้มยำกุ้ง คืออาหารไทยที่มีรสชาติเผ็ดร้อนและมีความเปรี้ยวโดดเด่นเป็นที่นิยมทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ มีส่วนผสมหลัก คือกุ้งสด น้ำซุปที่ประกอบไปด้วยสมุนไพรชนิดต่างๆ เช่น ตะไคร้ ใบมะกรูด หอมแดง และพริก วัตถุดิบเหล่านี้ให้กลิ่นหอมและรสชาติที่พลาดไม่ได้ให้กับต้มยำกุ้ง เครื่องปรุงรสจะมีน้ำปลา น้ำมะนาว และบางครั้งอาจมีน้ำพริกเผาเพื่อเพิ่มความเข้มข้นให้แก่น้ำซุป สูตรการปรุงและส่วนผสมนั้นอาจแตกต่างกันไปตามพื้นที่และสไตล์การทำ แต่อย่างไรก็ตามต้มยำกุ้งจะเน้นที่ความสดของกุ้งและรสสัมผัสที่กลมกล่อมทำให้เป็นอาหารที่เป็นเอกลักษณ์และได้รับความนิยมไปทั่วโลกไม่ว่าจะในรูปแบบของต้มยำน้ำใสหรือน้ำข้น

โดยเฉลี่ยปริมาณ ต้มยำกุ้ง 1 ถ้วย (250 กรัม) ให้พลังงาน

= 250 KCAL

(หรือคิดเป็น 100 Kcal ต่อปริมาณ 100 กรัม)
ใน 1 ถ้วยประกอบด้วยไขมัน 15 g.
⋅ พลังงานจากไขมัน = 135 กิโลแคลอรี่
⋅ เฉพาะไขมันคิดเป็น 21% ที่ร่างกายต้องการต่อวัน
หมายเหตุ: รวมซุป
ต้มยำกุ้ง

สัดส่วนสารอาหารหลัก

(สัดส่วนของสารอาหารที่ให้พลังงานกับร่างกาย)

แหล่งที่มาของแคลอรี่

(แบ่งสัดส่วนของ Kcal ที่ได้รับจากวัตถุดิบในอาหาร)
กุ้ง 30%
น้ำซุป 25%
น้ำพริกเผา 20%
มะพร้าว 15%
กุ้งเป็นส่วนประกอบหลักที่ให้แคลอรี่สูงสุดในต้มยำกุ้ง น้ำซุปมีส่วนช่วยให้มีแคลอรี่ตามมาต่อมาจากน้ำพริกเผาซึ่งเพิ่มความเข้มข้นและเพิ่มแคลอรี่ หากต้องการลดแคลอรี่จากต้มยำกุ้ง ควรใช้ปริมาณกุ้งและน้ำพริกเผาที่เหมาะสม และเลือกใช้มะพร้าวในปริมาณที่น้อยลง

ปริมาณโซเดียมใน ต้มยำกุ้ง

เฉลี่ยใน 1 ถ้วย
800 - 1000
(มิลลิกรัม)
จัดอยู่ในกลุ่มอาหารที่โซเดียม สูง
ต้มยำกุ้ง 1 ถ้วย (250 กรัม)
มีโซเดียมประมาณ 800-1000 มิลลิกรัม
คิดเป็น 35-45% ของปริมาณโซเดียมที่แนะนำต่อวัน
"ต้มยำกุ้งมีปริมาณโซเดียมสูงเนื่องจากใช้เครื่องปรุงรสเช่นน้ำปลาและน้ำพริกเผา การลดปริมาณโซเดียมสามารถทำได้โดยการปรับส่วนผสมให้น้อยลงหรือใช้ผลิตภัณฑ์ลดโซเดียมในกระบวนการปรุงอาหาร"
องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำให้บริโภคโซเดียมไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัม ต่อวัน

วิตามิน/เกลือแร่ที่พบได้ใน ต้มยำกุ้ง

ในต้มยำกุ้ง 1 ถ้วย มีสารอาหารประเภทวิตามินและเกลือแร่ที่พบบ่อยดังนี้
วิตามิน/เกลือแร่ ปริมาณใน 1 จาน %RDI ต่อวัน ได้รับจาก
วิตามินซี 20.1 มิลลิกรัม 22% มะนาว
แคลเซียม 80.5 มิลลิกรัม 8% กุ้ง
ธาตุเหล็ก 1.4 มิลลิกรัม 8% เห็ด
โซเดียม 900 มิลลิกรัม 41% น้ำปลา
ฟอสฟอรัส 150.7 มิลลิกรัม 15% กุ้ง
% RDI ต่อวัน หมายถึง สัดส่วนของสารอาหาร ที่ได้รับจากอาหาร เทียบกับปริมาณที่ร่างกายต้องการในหนึ่งวัน

กินต้มยำกุ้ง 1 ถ้วย ให้พลังงาน 250 แคลอรี่ ต้องเบิร์นแค่ไหน?

เดินเร็ว

ใช้เวลา 0.8 ชั่วโมง

วิ่งจ๊อกกิ้ง

ใช้เวลา 0.4 ชั่วโมง

ว่ายน้ำ

ใช้เวลา 0.5 ชั่วโมง

ปั่นจักรยาน

ใช้เวลา 0.5 ชั่วโมง

ควรเลือกกิจกรรมที่เหมาะสม และเพิ่มความต่อเนื่องในชีวิตประจำวัน เพื่อให้การเผาผลาญมีประสิทธิภาพมากขึ้น

กินต้มยำกุ้งให้ได้พลังงานน้อยที่สุด

สำหรับผู้ที่ต้องการกินเพื่อสุขภาพ ลดน้ำหนัก หรือควบคุมอาหาร
กินที่ร้าน/ซื้อใส่ถุง
  1. เลือกน้ำใส เลือกต้มยำกุ้งแบบน้ำใสแทนที่น้ำข้นเพื่อหลีกเลี่ยงปริมาณไขมันสูงจากน้ำกะทิ
  2. ขอปรับเครื่องปรุง ลดปริมาณน้ำปลา น้ำตาล และน้ำพริกเผา เพราะเป็นแหล่งโซเดียมและแคลอรี่
  3. เพิ่มผัก สั่งเพิ่มเติมผักชนิดต่างๆ เช่น ตะไคร้ ใบมะกรูด และเห็ด เพื่อเพิ่มไฟเบอร์และลดแคลอรี่
  4. เลี่ยงของทอด หลีกเลี่ยงการรับประทานของทอดที่มักทานพร้อมต้มยำกุ้ง เพื่อลดแคลอรี่ส่วนเกิน
  5. แยกซอสพริก หากมีน้ำจิ้มซอสพริก แนะนำให้แยกและใช้ในปริมาณที่น้อย
ทำกินเอง/ปรุงเอง
  1. เลือกกุ้งสด ใช้กุ้งสดแทนกุ้งแช่แข็งเพื่อลดสารปรุงแต่งที่อาจมีแคลอรี่เพิ่มเติม
  2. ลดไขมัน เลือกใช้น้ำพริกเผาในปริมาณที่จำกัด หรือทำแบบมาติดบ้านเพื่อลดแคลอรี่
  3. เพิ่มผัก ใส่ผักมากขึ้น เช่น เห็ด ตามความชอบซึ่งช่วยในการเพิ่มไฟเบอร์
  4. ปรับรสชาติ ลดการใช้น้ำปลาและเลือกใช้สมุนไพรเพื่อเพิ่มรสชาติอย่างธรรมชาติ
  5. ควบคุมปริมาณ จัดเสิร์ฟในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อรักษาการบริโภคให้คงที่
ข้อควรระวังและอาการแพ้อาหาร: สำหรับผู้ที่แพ้อาหารทะเลควรระวังการบริโภคต้มยำกุ้ง เนื่องจากกุ้งเป็นส่วนประกอบหลักและอาจก่อให้เกิดอาการแพ้ นอกจากนี้บางสูตรอาจใช้ส่วนผสมที่มีอะเลอร์เจนเช่น น้ำปลา และพริก เผาผู้ที่มีประวัติแพ้เรื่องอาหารทะเลหรือสารบางประเภทควรหลีกเลี่ยงหรือปรึกษาแพทย์ก่อนบริโภค หากจำเป็นต้องบริโภคควรเริ่มด้วยปริมาณน้อยและสังเกตอาการที่เกิดขึ้นหลังการรับประทาน
รู้หรือไม่? เลือกรับประทานต้มยำกุ้งในปริมาณที่เหมาะสม ร่วมกับการควบคุมปริมาณส่วนผสมที่มีไขมันสูงเช่นน้ำพริกเผาและกระท้อนออกได้ การเลือกรับประทานผักและเห็ดที่มากขึ้นจะช่วยเพิ่มปริมาณอาหารแต่ลดแคลอรี่ที่รับประทานลง

ค่าความอิ่ม

(Satiety Index)
70
%
ระดับสูง
กินแล้วอยู่ท้องนาน

ดัชนีน้ำตาล

(Glycemic Index)
35
คะแนน
ระดับค่า GI ต่ำ
น้ำตาลในเลือดเพิ่มช้าคงที่

เส้นใยอาหาร

(Dietary Fiber)
40
คะแนน
มีใยอาหารปานกลาง
หรือมีใยอาหารพอสมควร

ค่าพิวรีน

(Purine Content)
150
mg. ต่อ 100 กรัม
มีพิวรีนสูง
ผู้ป่วยโรคเก๊าท์ควรหลีกเลี่ยง

เป็นโรคเบาหวาน กินต้มยำกุ้งได้ไหม?

ต้มยำกุ้งมีดัชนีน้ำตาลต่ำซึ่งเหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน แต่ควรระวังปริมาณซอสและน้ำตาลที่อาจใช้ในกระบวนการปรุง การควบคุมปริมาณและการเลือกทานร่วมกับอาหารที่มีไขมันและไฟเบอร์สูงเพื่อลดการย่อยและดูดซึมน้ำตาล

เป็นโรคไต กินต้มยำกุ้งได้ไหม?

ต้มยำกุ้งมีโซเดียมสูงจากการใช้เครื่องปรุงเช่นน้ำปลา ซึ่งอาจทำให้การทำงานของไตมีปัญหา ควรเลือกทานในปริมาณที่พอดีและหลีกเลี่ยงการเติมซอสที่มีโซเดียมเพิ่ม

เป็นโรคหัวใจ กินต้มยำกุ้งได้ไหม?

เนื่องจากมีโซเดียมในปริมาณสูง อาจมีผลต่อสุขภาพของหัวใจ ควรลดปริมาณการเติมน้ำปลาและหลีกเลี่ยงการเพิ่มน้ำตาลหรือไขมันในส่วนผสม

เป็นโรคความดันโลหิตสูง กินต้มยำกุ้งได้ไหม?

ผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตสูงควรระวังการบริโภคต้มยำกุ้งเพราะมีปริมาณโซเดียมสูง การเลือกใช้ซอสที่มีโซเดียมน้อยหรือหลีกเลี่ยงการเติมของแถมน้ำปลาสำคัญ

เป็นโรคเก๊าท์ กินต้มยำกุ้งได้ไหม?

ผู้ป่วยโรคเก๊าท์ควรระวังเพราะพิวรีนในอาหารทะเลอาจทำให้ระดับกรดยูริกในเลือดเพิ่มขึ้น ควรควบคุมปริมาณการบริโภคและเลือกทานอาหารแอลกอฮอล์ต่ำ

เป็นโรคกระเพราะ กินต้มยำกุ้งได้ไหม?

ต้มยำกุ้งมีรสชาติเผ็ดร้อน อาจกระตุ้นอาการกรดไหลย้อนและกระเพาะอักเสบ ควรเลือกทานในปริมาณพอดีและหลีกเลี่ยงเครื่องปรุงรสเผ็ดและเปรี้ยวจัด

ข้อมูลอาจมีความแตกต่างกันไป ตามรูปแบบการปรุง และวัตถุดิบในการประกอบอาหาร รวมไปถึงปริมาณเฉลี่ยตามขนาดภาชนะในการจัดเตรียม
Thai RDI: ความต้องการพลังงานสำหรับคนไทย ที่มีอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป มีความต้องการพลังงานเฉลี่ยวันละ 2,000 กิโลแคลอรี่
เพศชาย ต้องการพลังงานมากกว่า เพศหญิง เนื่องจากเพศชายมักมีมวลกล้ามเนื้อและขนาดร่างกายที่ใหญ่กว่า ซึ่งทำให้ร่างกายต้องการพลังงานมากกว่า
การเรียกหน่วย แคลอรี่ kcal หรือ cal หรือ กิโลแคลอรี่ เพื่อใช้บอกพลังงานในอาหาร ในบริบทของการใช้จริง ให้นิยามได้ว่าเป็นหน่วยความหมายเท่ากัน