21 พฤศจิกายน 2567

แคลอรี่ใน ต้มยำกุ้งน้ำข้น มีกี่ Kcal

ต้มยำกุ้งน้ำข้น

ต้มยำกุ้งน้ำข้น คืออาหารไทยยอดนิยมที่ได้รับความนิยมทั่วโลก มีรสชาติเข้มข้นเปรี้ยวเผ็ด หอมกลิ่นสมุนไพรไทย เครื่องปรุงหลักประกอบด้วย กุ้งสด เห็ดหลากชนิด ตะไคร้ ใบมะกรูด หอมแดง และพริกสด รวมถึงน้ำมะนาวที่ให้ความเปรี้ยว นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของกะทิที่ทำให้น้ำซุปมีความมันและเข้มข้นยิ่งขึ้น น้ำซุปของต้มยำกุ้งน้ำข้นมีสีส้มอ่อน ถึงสีขาวครีม ให้สัมผัสกลมกล่อมและหอมหวล การทานต้มยำกุ้งให้ครบรสควรอิงถึงเครื่องเคียงชนิดต่าง ๆ เช่น ข้าวสวยหอมมะลิและผักชีสดตามชอบ

โดยเฉลี่ยปริมาณ ต้มยำกุ้งน้ำข้น 1 ถ้วย (250 กรัม) ให้พลังงาน

= 350 KCAL

(หรือคิดเป็น 140 Kcal ต่อปริมาณ 100 กรัม)
ใน 1 ถ้วยประกอบด้วยไขมัน 25 g.
⋅ พลังงานจากไขมัน = 225 กิโลแคลอรี่
⋅ เฉพาะไขมันคิดเป็น 36% ที่ร่างกายต้องการต่อวัน
หมายเหตุ: แบบน้ำข้น
ต้มยำกุ้งน้ำข้น

สัดส่วนสารอาหารหลัก

(สัดส่วนของสารอาหารที่ให้พลังงานกับร่างกาย)

แหล่งที่มาของแคลอรี่

(แบ่งสัดส่วนของ Kcal ที่ได้รับจากวัตถุดิบในอาหาร)
กุ้ง 40%
กะทิ 35%
พริกแกง 15%
เห็ด 5%
น้ำมะนาว 5%
แคลอรี่ในต้มยำกุ้งน้ำข้นส่วนใหญ่จะมาจากกุ้งและกะทิ กุ้งให้โปรตีนสูงและมีไขมันไม่อิ่มตัว ขณะที่กะทิทำให้น้ำซุปมีความเข้มข้นได้เนื่องจากไขมันอิ่มตัวที่สูง พริกแกงและเห็ดเป็นแหล่งพลังงานเพิ่มเติม แต่มักมีแคลอรี่ต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับส่วนผสมหลัก

ปริมาณโซเดียมใน ต้มยำกุ้งน้ำข้น

เฉลี่ยใน 1 ถ้วย
800 - 1000
(มิลลิกรัม)
จัดอยู่ในกลุ่มอาหารที่โซเดียม สูง
ต้มยำกุ้งน้ำข้น 1 ถ้วย (250 กรัม)
มีโซเดียมประมาณ 800-1000 มิลลิกรัม
คิดเป็น 35-50% ของปริมาณโซเดียมที่แนะนำต่อวัน
"ต้มยำกุ้งน้ำข้นมักใช้น้ำปลาและเครื่องปรุงชนิดต่าง ๆ ซึ่งเป็นแหล่งของโซเดียม ปริมาณโซเดียมในต้มยำจึงสูงขึ้น เช่นน้ำปลาและซอสปรุงรสที่ใช้"
องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำให้บริโภคโซเดียมไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัม ต่อวัน

วิตามิน/เกลือแร่ที่พบได้ใน ต้มยำกุ้งน้ำข้น

ในต้มยำกุ้งน้ำข้น 1 ถ้วย มีสารอาหารประเภทวิตามินและเกลือแร่ที่พบบ่อยดังนี้
วิตามิน/เกลือแร่ ปริมาณใน 1 จาน %RDI ต่อวัน ได้รับจาก
วิตามินซี 25.0 มิลลิกรัม 28% น้ำมะนาว
โพแทสเซียม 400.0 มิลลิกรัม 11% เห็ด
วิตามินเอ 100.0 ไมโครกรัม 10% พริก
แคลเซียม 30.0 มิลลิกรัม 3% กะทิ
ธาตุเหล็ก 1.5 มิลลิกรัม 8% กุ้ง
% RDI ต่อวัน หมายถึง สัดส่วนของสารอาหาร ที่ได้รับจากอาหาร เทียบกับปริมาณที่ร่างกายต้องการในหนึ่งวัน

กินต้มยำกุ้งน้ำข้น 1 ถ้วย ให้พลังงาน 350 แคลอรี่ ต้องเบิร์นแค่ไหน?

เดินเร็ว

ใช้เวลา 1.2 ชั่วโมง

วิ่งจ๊อกกิ้ง

ใช้เวลา 0.6 ชั่วโมง

ว่ายน้ำ

ใช้เวลา 0.7 ชั่วโมง

ปั่นจักรยาน

ใช้เวลา 0.7 ชั่วโมง

ควรเลือกกิจกรรมที่เหมาะสม และเพิ่มความต่อเนื่องในชีวิตประจำวัน เพื่อให้การเผาผลาญมีประสิทธิภาพมากขึ้น

กินต้มยำกุ้งน้ำข้นให้ได้พลังงานน้อยที่สุด

สำหรับผู้ที่ต้องการกินเพื่อสุขภาพ ลดน้ำหนัก หรือควบคุมอาหาร
กินที่ร้าน/ซื้อใส่ถุง
  1. เลือกกุ้งสด: เลือกใช้กุ้งสดแทนกุ้งแช่แข็งเพื่อลดแคลอรี่ที่มากับสารกันเสียและน้ำตาล
  2. ละน้ำกะทิ: ลดหรือหลีกเลี่ยงการใช้กะทิ สามารถแทนด้วยนมพร่องมันเนยเพื่อความเข้มข้น
  3. ใช้เครื่องปรุงชั้นดี: เลือกใช้เครื่องปรุงลดเกลือโซเดียมหรือซอสที่ไม่มีน้ำตาล
  4. เน้นผัก: เพิ่มผักเป็นส่วนผสมหลัก เพื่อเพิ่มใยอาหารและลดแคลอรี่ต่อถ้วย
  5. หลีกเลี่ยงน้ำมัน: ละเว้นการใช้พริกทอดหรือน้ำมันในส่วนผสม
ทำกินเอง/ปรุงเอง
  1. ลดกะทิ: ใช้กะทิในปริมาณน้อยหรือแทนที่ด้วยนมพร่องมันเนย
  2. เลือกกุ้งสด: ใช้กุ้งสดเพื่อลดแคลอรี่ที่เกิดจากการปรุงแต่ง
  3. ส่วนผสมสมุนไพร: เพิ่มสมุนไพรไทยที่มีโซเดียมต่ำเพื่อเพิ่มรสชาติ
  4. เน้นผัก: เพิ่มผักเป็นหลักในสูตรทำอาหาร
  5. ใช้เครื่องปรุงที่ดีต่อสุขภาพ: เน้นเครื่องปรุงที่มีแคลอรี่ต่ำและไม่มีน้ำตาล
ข้อควรระวังและอาการแพ้อาหาร: ผู้ที่แพ้อาหารทะเลควรระวังเนื่องจากต้มยำกุ้งมีส่วนผสมของกุ้งเป็นหลัก ซึ่งอาจก่อให้เกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้ได้ นอกจากนี้ผู้ที่มีอาการแพ้กะทิหรือนมก็ต้องระวัง เพราะต้มยำกุ้งน้ำข้นมีส่วนประกอบของกะทิแทนที่อาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้ ผู้แพ้ต่อสมุนไพรไทยเช่นตะไคร้และใบมะกรูดอาจก่อให้เกิดอาการแพ้ทางผิวหนังแสบคันได้ ควรปรึกษาแพทย์เมื่อเกิดอาการแพ้ดังกล่าว
รู้หรือไม่? การลดแคลอรี่ที่ได้รับจากต้มยำกุ้งน้ำข้นสามารถทำได้ง่าย ๆ โดยการลดปริมาณกะทิที่ใช้ และเน้นการใช้กุ้งสดแทนกุ้งแช่แข็งที่มีการเติมน้ำตาลและเกลือร่วมด้วย ลดหรือเลี่ยงการเติมน้ำตาลและใช้แทนที่ด้วยน้ำปลาในปริมาณน้อย หลีกเลี่ยงการใส่น้ำมันเพิ่มเติมในส่วนประกอบต่าง ๆ หากเป็นไปได้ให้เลือกกุ้งจากแหล่งที่ปลอดภัยและลดการใช้กุ้งชุบน้ำตาล การรับประทานต้มยำคู่กับผักสดนอกจากช่วยลดแคลอรี่แล้วยังเพิ่มใยอาหารที่ช่วยในการย่อยซีเรียลอีกด้วย

ค่าความอิ่ม

(Satiety Index)
75
%
ระดับสูง
กินแล้วอยู่ท้องนาน

ดัชนีน้ำตาล

(Glycemic Index)
45
คะแนน
ระดับค่า GI ปานกลาง
น้ำตาลในเลือดเพิ่มปานกลาง

เส้นใยอาหาร

(Dietary Fiber)
60
คะแนน
มีใยอาหารปานกลาง
หรือมีใยอาหารพอสมควร

ค่าพิวรีน

(Purine Content)
60
mg. ต่อ 100 กรัม
มีพิวรีนสูง
ผู้ป่วยโรคเก๊าท์ควรหลีกเลี่ยง

เป็นโรคเบาหวาน กินต้มยำกุ้งน้ำข้นได้ไหม?

ขณะที่ต้มยำกุ้งน้ำข้นมีปริมาณคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลน้อย แต่ก็มีไขมันสูงจากกะทิและน้ำตาลธรรมชาติจากกุ้ง การบริโภคอย่างระมัดระวังช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดได้ ผู้ป่วยเบาหวานควรเลือกกินในปริมาณที่เหมาะสมและเน้นผักที่มีกากใยสูงเพื่อลดผลกระทบต่อระดับน้ำตาลในเลือด

เป็นโรคไต กินต้มยำกุ้งน้ำข้นได้ไหม?

สำหรับผู้ที่มีโรคไต ต้มยำกุ้งน้ำข้นมีโซเดียมสูงซึ่งอาจทำให้ภาระทำงานของไตเพิ่มขึ้น ควรเลือกปรุงโดยใช้เครื่องปรุงที่มีโซเดียมต่ำและควบคุมการบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะ

เป็นโรคหัวใจ กินต้มยำกุ้งน้ำข้นได้ไหม?

การบริโภคต้มยำกุ้งน้ำข้นต้องระวังเนื่องจากมีไขมันอิ่มตัวสูงจากกะทิและโซเดียมจากเครื่องปรุงซึ่งอาจเพิ่มความดันและความเสี่ยงต่อปัญหาหัวใจ ผู้ป่วยควรควบคุมปริมาณบริโภคและเลือกใช้เครื่องปรุงที่สุขภาพดีกว่า

เป็นโรคความดันโลหิตสูง กินต้มยำกุ้งน้ำข้นได้ไหม?

ต้มยำกุ้งน้ำข้นมีปริมาณโซเดียมสูง ซึ่งอาจเพิ่มความดันโลหิตได้ ผู้ป่วยควรจำกัดปริมาณการบริโภคและเลือกปรุงด้วยเครื่องปรุงที่ไม่มีโซเดียมหรือใช้ในปริมาณน้อย

เป็นโรคเก๊าท์ กินต้มยำกุ้งน้ำข้นได้ไหม?

กุ้งมีปริมาณพิวรีนปานกลางถึงสูงซึ่งอาจเพิ่มกรดยูริคในเลือด ผู้ป่วยควรระวังการบริโภคและควบคุมปริมาณ พร้อมเลือกรับประทานคู่กับผักที่มีกรดพิวรีนต่ำ

เป็นโรคกระเพราะ กินต้มยำกุ้งน้ำข้นได้ไหม?

ความเผ็ดและกรดในต้มยำกุ้งน้ำข้นอาจกระตุ้นอาการโรคกระเพาะอาหาร หากมีอาการแพ้ควรหลีกเลี่ยงหรือปรับผสมให้เข้มข้นน้อยลง ปรับรสชาติให้เหมาะสมกับสภาพกระเพาะ

ข้อมูลอาจมีความแตกต่างกันไป ตามรูปแบบการปรุง และวัตถุดิบในการประกอบอาหาร รวมไปถึงปริมาณเฉลี่ยตามขนาดภาชนะในการจัดเตรียม
Thai RDI: ความต้องการพลังงานสำหรับคนไทย ที่มีอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป มีความต้องการพลังงานเฉลี่ยวันละ 2,000 กิโลแคลอรี่
เพศชาย ต้องการพลังงานมากกว่า เพศหญิง เนื่องจากเพศชายมักมีมวลกล้ามเนื้อและขนาดร่างกายที่ใหญ่กว่า ซึ่งทำให้ร่างกายต้องการพลังงานมากกว่า
การเรียกหน่วย แคลอรี่ kcal หรือ cal หรือ กิโลแคลอรี่ เพื่อใช้บอกพลังงานในอาหาร ในบริบทของการใช้จริง ให้นิยามได้ว่าเป็นหน่วยความหมายเท่ากัน