24 พฤศจิกายน 2567

แคลอรี่ คืออะไร

• คำศัพท์ด้านสารอาหารและโภชนาการ
ภาษาอังกฤษ
Calories
- คำอ่าน -
แคล-ลอ-รีส์ (ˈkæləriz)
ภาษาจีน
卡路里
- คำอ่าน -
kǎ lù lǐ (ข่า ลู่ หลี่)
ภาษาญี่ปุ่น
カロリー
- คำอ่าน -
karorī (คะโรรี)

ความหมายของ แคลอรี่

แคลอรี่ คือ หน่วยที่ใช้วัดพลังงานในอาหารและเครื่องดื่ม เมื่อเรารับประทานอาหาร ร่างกายจะเผาผลาญแคลอรีเพื่อใช้เป็นพลังงานในการทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น เดิน หายใจ และออกกำลังกาย ปริมาณแคลอรีที่ได้รับและใช้ไปนั้นจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อายุ น้ำหนัก และกิจกรรมในแต่ละวัน ถ้ารับแคลอรีมากเกินไปจะสะสมเป็นไขมัน แต่ถ้าใช้พลังงานมากกว่าแคลอรีที่รับเข้าไป ร่างกายจะนำพลังงานสำรองมาใช้
แคลอรี (Calories)

รายละเอียดเพิ่มเติม

แคลอรี (Calories) คือหน่วยวัดพลังงานในอาหารและเครื่องดื่มที่เราบริโภคเข้าไป คำว่า “แคลอรี” มาจากภาษาละตินว่า “calor” ที่แปลว่า “ความร้อน” ซึ่งสะท้อนถึงการวัดพลังงานในรูปของความร้อน เมื่อร่างกายเผาผลาญอาหารและเครื่องดื่ม พลังงานที่ได้จะถูกใช้เพื่อทำให้เราสามารถดำรงชีวิตและทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ เช่น การเดิน การออกกำลังกาย และแม้แต่การหายใจในชีวิตประจำวัน

แหล่งของแคลอรีในอาหาร

อาหารและเครื่องดื่มที่เราบริโภคให้พลังงานในรูปของแคลอรี โดยสารอาหารหลักในอาหารจะให้พลังงานในปริมาณที่แตกต่างกัน:

  • คาร์โบไฮเดรต: ให้พลังงาน 4 แคลอรีต่อกรัม
  • โปรตีน: ให้พลังงาน 4 แคลอรีต่อกรัม
  • ไขมัน: ให้พลังงานมากที่สุดที่ 9 แคลอรีต่อกรัม
  • แอลกอฮอล์: ให้พลังงาน 7 แคลอรีต่อกรัม (แม้ไม่จัดเป็นสารอาหาร)

อาหารที่มีปริมาณแคลอรีสูงมักมีไขมันสูง หรือเป็นอาหารที่ผ่านการแปรรูป เช่น ของหวานและขนมกรุบกรอบ ขณะที่อาหารธรรมชาติ เช่น ผัก ผลไม้ และเนื้อสัตว์ที่ไม่ผ่านการแปรรูป จะมีแคลอรีที่ต่ำกว่า

การทำงานของแคลอรีในร่างกาย

เมื่อเรากินอาหาร ร่างกายจะเผาผลาญอาหารเหล่านั้นเพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงาน พลังงานนี้ใช้ในการทำงานของร่างกายที่เราควบคุมได้ เช่น การเดิน การออกกำลังกาย และการทำกิจวัตรประจำวัน แต่ยังใช้ในกิจกรรมที่เราควบคุมไม่ได้ด้วย เช่น การหายใจ การทำงานของหัวใจ การย่อยอาหาร และการซ่อมแซมเซลล์ต่าง ๆ

แคลอรีในร่างกายยังถูกใช้ในการรักษาอุณหภูมิร่างกายให้คงที่และสนับสนุนการทำงานของอวัยวะทั้งหมด เช่น สมอง ตับ และกล้ามเนื้อ เมื่อร่างกายได้รับแคลอรีเกินความต้องการ ส่วนที่เหลือจะถูกเก็บสะสมในรูปของไขมันเป็นพลังงานสำรอง

ความต้องการแคลอรีของร่างกาย

ความต้องการแคลอรีในแต่ละวันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุ น้ำหนักตัว เพศ และระดับกิจกรรมทางกาย ตัวอย่างเช่น ผู้ที่ทำงานหนักทางกายหรือออกกำลังกายเป็นประจำจะต้องการแคลอรีมากกว่าคนที่ใช้ชีวิตแบบนั่งทำงานประจำวัน หรือคนที่มีกิจกรรมทางกายน้อย ปริมาณแคลอรีที่ต้องการต่อวันเรียกว่า พลังงานที่ร่างกายต้องการต่อวัน (Daily Caloric Intake)

โดยทั่วไป ปริมาณแคลอรีที่แนะนำต่อวันสำหรับผู้ใหญ่คือ:

  • ผู้หญิง: ประมาณ 1,800-2,200 แคลอรีต่อวัน ขึ้นอยู่กับระดับกิจกรรม
  • ผู้ชาย: ประมาณ 2,200-2,800 แคลอรีต่อวัน ขึ้นอยู่กับระดับกิจกรรม

การบริหารแคลอรี

การบริหารแคลอรีเกี่ยวข้องกับการปรับสมดุลระหว่างแคลอรีที่ร่างกายได้รับและแคลอรีที่ใช้ไป หากบริโภคแคลอรีมากกว่าที่ร่างกายต้องการ แคลอรีที่เหลือจะถูกเก็บเป็นพลังงานสำรองในรูปไขมัน ในขณะเดียวกัน ถ้าเราบริโภคแคลอรีน้อยเกินไป ร่างกายจะใช้พลังงานสำรองจากไขมันและกล้ามเนื้อมาเป็นพลังงาน การเลือกอาหารที่มีแคลอรีต่ำ เช่น ผักและผลไม้ รวมถึงการออกกำลังกายเป็นประจำ จะช่วยให้สามารถบริหารแคลอรีได้อย่างเหมาะสม โดยไม่ทำให้พลังงานสะสมในร่างกายเกินความจำเป็น

คำศัพท์น่ารู้

เรื่องแนะนำ