แคลอรี (Calories) คือหน่วยวัดพลังงานในอาหารและเครื่องดื่มที่เราบริโภคเข้าไป คำว่า “แคลอรี” มาจากภาษาละตินว่า “calor” ที่แปลว่า “ความร้อน” ซึ่งสะท้อนถึงการวัดพลังงานในรูปของความร้อน เมื่อร่างกายเผาผลาญอาหารและเครื่องดื่ม พลังงานที่ได้จะถูกใช้เพื่อทำให้เราสามารถดำรงชีวิตและทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ เช่น การเดิน การออกกำลังกาย และแม้แต่การหายใจในชีวิตประจำวัน
แหล่งของแคลอรีในอาหาร
อาหารและเครื่องดื่มที่เราบริโภคให้พลังงานในรูปของแคลอรี โดยสารอาหารหลักในอาหารจะให้พลังงานในปริมาณที่แตกต่างกัน:
- คาร์โบไฮเดรต: ให้พลังงาน 4 แคลอรีต่อกรัม
- โปรตีน: ให้พลังงาน 4 แคลอรีต่อกรัม
- ไขมัน: ให้พลังงานมากที่สุดที่ 9 แคลอรีต่อกรัม
- แอลกอฮอล์: ให้พลังงาน 7 แคลอรีต่อกรัม (แม้ไม่จัดเป็นสารอาหาร)
อาหารที่มีปริมาณแคลอรีสูงมักมีไขมันสูง หรือเป็นอาหารที่ผ่านการแปรรูป เช่น ของหวานและขนมกรุบกรอบ ขณะที่อาหารธรรมชาติ เช่น ผัก ผลไม้ และเนื้อสัตว์ที่ไม่ผ่านการแปรรูป จะมีแคลอรีที่ต่ำกว่า
การทำงานของแคลอรีในร่างกาย
เมื่อเรากินอาหาร ร่างกายจะเผาผลาญอาหารเหล่านั้นเพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงาน พลังงานนี้ใช้ในการทำงานของร่างกายที่เราควบคุมได้ เช่น การเดิน การออกกำลังกาย และการทำกิจวัตรประจำวัน แต่ยังใช้ในกิจกรรมที่เราควบคุมไม่ได้ด้วย เช่น การหายใจ การทำงานของหัวใจ การย่อยอาหาร และการซ่อมแซมเซลล์ต่าง ๆ
แคลอรีในร่างกายยังถูกใช้ในการรักษาอุณหภูมิร่างกายให้คงที่และสนับสนุนการทำงานของอวัยวะทั้งหมด เช่น สมอง ตับ และกล้ามเนื้อ เมื่อร่างกายได้รับแคลอรีเกินความต้องการ ส่วนที่เหลือจะถูกเก็บสะสมในรูปของไขมันเป็นพลังงานสำรอง
ความต้องการแคลอรีของร่างกาย
ความต้องการแคลอรีในแต่ละวันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุ น้ำหนักตัว เพศ และระดับกิจกรรมทางกาย ตัวอย่างเช่น ผู้ที่ทำงานหนักทางกายหรือออกกำลังกายเป็นประจำจะต้องการแคลอรีมากกว่าคนที่ใช้ชีวิตแบบนั่งทำงานประจำวัน หรือคนที่มีกิจกรรมทางกายน้อย ปริมาณแคลอรีที่ต้องการต่อวันเรียกว่า พลังงานที่ร่างกายต้องการต่อวัน (Daily Caloric Intake)
โดยทั่วไป ปริมาณแคลอรีที่แนะนำต่อวันสำหรับผู้ใหญ่คือ:
- ผู้หญิง: ประมาณ 1,800-2,200 แคลอรีต่อวัน ขึ้นอยู่กับระดับกิจกรรม
- ผู้ชาย: ประมาณ 2,200-2,800 แคลอรีต่อวัน ขึ้นอยู่กับระดับกิจกรรม
การบริหารแคลอรี
การบริหารแคลอรีเกี่ยวข้องกับการปรับสมดุลระหว่างแคลอรีที่ร่างกายได้รับและแคลอรีที่ใช้ไป หากบริโภคแคลอรีมากกว่าที่ร่างกายต้องการ แคลอรีที่เหลือจะถูกเก็บเป็นพลังงานสำรองในรูปไขมัน ในขณะเดียวกัน ถ้าเราบริโภคแคลอรีน้อยเกินไป ร่างกายจะใช้พลังงานสำรองจากไขมันและกล้ามเนื้อมาเป็นพลังงาน การเลือกอาหารที่มีแคลอรีต่ำ เช่น ผักและผลไม้ รวมถึงการออกกำลังกายเป็นประจำ จะช่วยให้สามารถบริหารแคลอรีได้อย่างเหมาะสม โดยไม่ทำให้พลังงานสะสมในร่างกายเกินความจำเป็น